Rating: 4/5 (6 votes)
วัดท้องลับแล (วัดลับแลง)
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
วัดท้องลับแล แต่เดิมมีชื่อว่า “วัดลับแลง” คำว่าแลง เป็นภาษาท้องถิ่น แปลว่าตอนเย็น วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ แม้ไม่พบหลักฐานว่าสร้างวัดขึ้นมาตั้งแต่สมัยใด แต่มีหลักฐานสำคัญระบุไว้ว่าใน พ.ศ.2420 ได้มีการบูรณะวัดครั้งสำคัญ โดยครูอินโสม ช่างจากบ้านท่าศาลาได้รวบรวมเหล่าชาวบ้านบ้านท้องลับแลมาซ่อมแซมบูรณะวัด ในการบูรณะครั้งนี้ได้มีการสร้างโบสถ์ขึ้นใหม่ และในเวลาต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดท้องลับแล”
ที่วัดแห่งนี้ได้เกิดปรากฏการณ์ “ภาพหัวกลับ” ขึ้นภายในโบสถ์ของวัด โดยมีผู้พบเห็นภาพหัวกลับเมื่อช่วงกลางปี 2554 ซึ่งนายรัศมี เสือน้อย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านฝายหลวงลับแล เล่าให้ฟังว่า พระสมชายที่มาบวชที่วัดเมื่อกลางปี 2554 เป็นผู้พบภาพหัวกลับเป็นคนแรกขณะที่เข้าไปนอนภายในโบสถ์ที่ปิดทั้งประตูและหน้าต่าง แต่บานหน้าต่างของโบสถ์ที่ปิดไม่สนิทได้มีช่องเล็กๆ ให้แสงส่องผ่านเข้ามา จึงเกิดภาพสะท้อนหัวกลับของศาลาการเปรียญฝั่งตรงข้ามบานหน้าต่างมายังฝาผนังภายในโบสถ์ เกิดความเป็นอัศจรรย์ที่พบด้วยความบังเอิญ
จากนั้นได้มีเรื่องประหลาดเกิดตามมา เมื่อนายภูมินทร์ ทันตแพทย์ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ได้มาบอกกล่าวกับเจ้าอาวาสของวัดท้องลับแลว่า ตนได้ฝันเห็น “เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร” ปฐมกษัตริย์แห่งนครลับแล มาบอกว่าได้มีผู้พบเห็นความอัศจรรย์ภาพหัวกลับภายในโบสถ์ ซึ่งในตอนแรกตนไม่เชื่อและไม่รู้จักว่ามีกษัตริย์ผู้นี้อยู่จริงหรือไม่ แต่พอได้ค้นข้อมูลก็พบว่ามีจริง จึงเป็นที่น่าประหลาดใจสำหรับตนเอง จนต้องเดินทางมายังวัดแห่งนี้เพื่อเข้าพบและบอกกล่าวกับเจ้าอาวาส
และด้วยความเคารพศรัทธา หมอภูมินทร์จึงได้สร้างเจดีย์แก้วขึ้นบริเวณตรงข้ามบานหน้าต่างของโบสถ์ เพื่อจะได้เห็นเป็นภาพสะท้อนหัวกลับอันสวยงาม ส่วนภายในโบสถ์ที่แต่เดิมเป็นเพียงผนังโล่งๆ ก็ได้มีการเขียนจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องตำนานและวิถีชีวิตของชาวลับแล โดยเว้นพื้นขาวว่างไว้บนผนังบริเวณที่ภาพสะท้อนตกกระทบ และในอนาคตจะมีการสร้างกำแพงล้อมตัวโบสถ์ตามแบบที่หมอภูมินทร์ฝันเห็นอีกด้วย
ทั้งนี้ความน่าพิศวงดังกล่าว หากอธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์ก็คือการหักเหของแสง ที่มีหลักการเดียวกลับกล้องรูเข็ม โดยเมื่อแสงส่องผ่านเข้ามาทางรูเล็กๆ ในห้องมืดทึบก็จะเกิดการหักเหของแสง เกิดเป็นภาพหัวกลับจากแสงสะท้อนลงบนฉาก ภาพที่เกิดในลักษณะนี้จะมืดและไม่ชัดเจน และเป็นปรากฏการณ์เดียวกันที่พบที่วัดพระธาตุลำปางหลวง และวัดพระธาตุจอมปิง เป็นต้น
สำหรับผู้ที่อยากชมภาพหัวกลับในวัดท้องลับแล ในช่วงนี้ทางวัดยังไม่เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ หากต้องการชมควรขออนุญาตกับเจ้าอาวาสก่อน อีกทั้งยังมีข้อห้ามตามความเชื่อของท้องถิ่นในการฝังลูกนิมิต ห้ามมิให้ผู้หญิงที่มีรอบเดือนเข้าไปในโบสถ์ ผู้ที่จะเข้าชมจึงควรเคารพในความเชื่อของชุมชนด้วย
หมวดหมู่: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
กลุ่ม: วัด
ปรับปรุงล่าสุด : 3 ปีที่แล้ว