หน้าหลัก > ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ > จ.นครราชสีมา > แม่น้ำโขงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


นครราชสีมา

แม่น้ำโขงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

แม่น้ำโขงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Share Facebook

Rating: 5/5 (1 votes)

แม่น้ำโขงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลุ่มน้ำสาขาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบไปด้วยทั้งหมด 8 จังหวัด มีลุ่มน้ำสาขาทั้งหมด 29 ลุ่มน้ำ โดยครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดหนองคาย, จังหวัดอุดรธานี, จังหวัดเลย, จังหวัดหนองบัวลำภู, จังหวัดสกลนคร, จังหวัดมุกดาหาร, จังหวัดนครพนม และจังหวัดอำนาจเจริญ
 
พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีทั้งหมดประมาณ 86,932 ตารางกิโลเมตร โดยทุกลำสาขาลำน้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งแม่ทางน้ำธรรมชาติระหว่างประเทศ โดยลำน้ำส่วนใหญ่ในลุ่มแม่น้ำโขงจะมีความยาวไม่เกิน 50 กิโลเมตร และจะมีความลาดชันของลำน้ำมาก โดยลำน้ำมีสภาพถูกกัดเซาะสูง หากเกิดฝนตกหนักอาจเกิดน้ำป่าไหลหลาย ซึ่งรุนแรงมาก นอกจากนี้พื้นที่ทำการเกษตรจะอยู่บริเวณสองฝั่งของลำน้ำ ซึ่งอยู่บริเวณตอนกลาง และตอนท้ายของลำน้ำโขง โดยแบ่งลุ่มน้ำได้ดังนี้
 
1. ลุ่มน้ำสวย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบอยู่บริเวณตอนล่างของลุ่มน้ำทางทิศเหนือ มีพื้นที่ประมาณ 1,336 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนมากมี หนอง, บึง กระจายอยู่ทั่วไป และพื้นที่ตอนบนจะอยู่ทางทิศใต้ มีลักษณะเป็นพื้นที่ลาด และเนินเตี้ย ๆ เล็กน้อยในต้นที่ต้นน้ำ โดยมีลำน้ำสาขาย่อยกระจายครอบคลุม 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดหนองคาย และจังหวัดอุดรธานี 
 
2. ลุ่มน้ำโมง พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยส่วนปลายของแนวเทือกเขาภูพานที่กั้นอยู่ระหว่างพื้นที่ลุ่มแม่น้ำทางตอนบน และลุ่มแม่น้ำทางตอนล่างในแนวของทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่ไหลลงสู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ พื้นที่ประมาณ 2,645 ตารางกิโลเมตร ส่วนพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำสาขาอื่น ๆ ทางทิศใต้เป็นเพียงเนินเขา และพื้นที่ลาดเท โดยสภาพพื้นที่ส่วนใหญ๋จะราบเรียบ โดยครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดหนองบัวลำภู, จังหวัดเลย, จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย
 
3. ลุ่มน้ำสาน พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเทือกเขาแนวสูงตลอดทั้งพื้นที่ลุ่มน้ำ มีพื้นที่ทั้งหมด 881 ตารางกิโลเมตร ทางทิศใต้ และทิศตะวันออกมีพื้นที่ต้นน้ำมีระดับความสูงประมาณ 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และจะค่อย ๆ ลดลงมาบริเวณตอนกลางของพื้นที่ซึ่งลักษณะพื้นที่ค่อนข้างลาดชัน มีพื้นราบเพียงเล็กน้อย บริเวณริมน้ำสายหลัก ได้แก่ ห้วยน้ำเขามัน และลำน้ำสาน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเลย โดยมีลุ่มน้ำทั้งหมด 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ น้ำสานตอนบน, ห้วยน้ำเข้ามัน และน้ำสานตอนล่าง
 
4. ลุ่มน้ำโสม พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแนวเขาสูงทางทิศตะวันออกของพื้นที่ โดยจะมีพื้นที่ประมาณ 1,118 ตารางกิโลเมตร แนวเขาทางทิศตะวันตกจะมีความสูงประมาณ 600 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งมีความสูงกว่าทิศตะวันออกประมาณ 500 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากแนวทิวเขาทั้ง 2 ด้าน และจะค่อย ๆ ลดหลั่น ลาดเทลงสู่น้ำที่อยู่ตอนกลางของพื้นที่ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นภูเขา และพื้นที่ลาดชัน มีพื้นที่ราบไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่จะกระจายอยู่ 2 ฝั่งลำน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัดสำคัญ ได้แก่ จังหวัดหนองคาย และจังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วยลุ่มน้ำสาขา 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ห้วยน้ำราง, แม่น้ำโสมตอนบน และห้วยน้ำโสมตอนล่าง
 
5. ลุ่มน้ำแม่โขง ส่วนที่  3 พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเขาล้อมรอบ มีพื้นที่ประมาณ 690 ตารางกิโลเมตร มีความสูงประมาณ 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และค่อย ๆ ลาดลงมาทางทิศเหนือ สถาพเป็นเขาสูง นอกจากนี้ยังถือเป็นต้นน้ำของลำน้ำสาขาเล็ ๆ อื่น ๆ ที่ลาดชันหลายสายไหลลงสู่ลำน้ำเหือง ซึ่งเถือเป็นลำน้ำของแม่โขงทางทิศเหนือ ซึ่งจะครอบคลุมพทืนที่จังหวัดเลย โดยมีลุ่มน้ำสาขา 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ แม่น้ำโขงส่วนที่ 3 ตอนบน น้ำหู และแม่น้ำโขงส่วนที่ 3 ตอนล่าง
 
6. ลุ่มน้ำแม่โขง ส่วนที่  4 มีพื้นที่ประมาณ 794 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยแนวเขาที่กระจายอยู่ตลอดทั้งพื้นที่ลุ่มน้ำ โดยเฉพาะแนวเขาทางทิศใต้ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ต้นน้ำโดยมีระดับความสูงประมาณ 600 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยระดับความสูงของแนวเขาจะค่อย ๆ ลดต่ำลง และทางทิศเหนือจะมีความสูงประมาณ 300 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งแนวเขาเหล่านี้ก่อให้เกินน้ำสาขาเล็ก ๆ ที่ลาดชันหลายสายไหลลงสู่ลำน้ำเหือง ซึ่งเป็นลำน้ำโขงทางทิศเหนือ โดยครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเลย มีลุ่มน้ำสาขาทั้งหมด 3 สาขา คือ แม่น้ำโขงส่วนที่ 4 ตอนบน, น้ำคาน และแม่น้ำโขงส่วนที่ 4 ตอนล่าง
 
7. ลุ่มน้ำแม่น้ำโขง ส่วนที่ 5 พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแนวเขากระจากอยู่รอบ ๆ ตลอดทั้งพื้นที่ลุ่มน้ำ มีพื้นที่ประมาณ 1,760 ตารางกิโลเมตร มีความสูงประมาณ 600 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่งผลให้แนบเขาเหล่านี้เกิดลำน้ำสาขาเล็ก ๆ หลายสายที่ลาดชันไหลจากทางทิศใต้ลงสู่แม่น้ำโขงทางทิศเหนือ สภาพเป็นภูเขา และพื้นที่ลาดชัน ครอบคลุมพทืนที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี, จังหวัดเลย และจังหวัดหนองคาย โดยมีลุ่มแม่น้ำสาขา 4 ลุ่มน้ำ ได้แก่ แม่น้ำโขงส่วนที่ 5 ตอนบน, ห้วยน้ำชม, ห้วยสะงาว และแม่น้ำโขงส่วนที่ 5 ตอนล่าง
 
8. ลุ่มน้ำแม่น้ำโขง ส่วนที่ 6 มีพื้นที่ประมาณ 553 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำโขง สภาพส่วนใหญ่ จึงประกอบไปด้วยพื้นที่ราบเป็นส่วนใหญ่ มีหนอง และบึง กระจายอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างมาก โดยมีลำน้ำสายสั้น ๆ หลายสาย ที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขงโดยตรง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดหนองคาย และจังหวัดอุดรธานี มีลุ่มน้ำสาขาเพียง 1 ลุ่มน้ำ คือ แม่น้ำโขงส่วนที่ 6
 
9. ลุ่มน้ำแม่น้ำโขง ส่วนที่ 7 ขอบเขตพื้นที่ครอบคลุมลุ่มน้ำทางทิศเหนือ, ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกจรดกับแม่น้ำโขง มีพื้นที่ประมาณ 2,556 ตารางกิโลเมตร อยู่ช่วงกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตรประชาชนลาว โดยทางทิศใต้จะอยู่แนวสันปันน้ำแม่สงคราม, ห้วยคอง, ห้วยฮ้้ กับลำน้ำสาขาย่อยที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขงโดยตรง ลักษณะพื้นที่โดยทั่วไปจะเป็นพื้นที่ราบติดแม่น้ำโขง ทางทิศใต้ของพื้นที่จะเป็นลุ่มน้ำดอน มีที่ราบตามแนวลำน้ำเพียงเล็กน้อย ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม และจังหวัดหนองคาย มีลุ่มน้ำสขา 4 ลุ่มน้ำ คือ แม่น้ำโขงส่วนที่ 7 ตอนบน, แม่น้ำโขง ส่วนที่ 7 ตอนกลาง, ห้วยบังบาตร และแม่น้ำโขงส่วนที่ 7 ตอนล่าง
 
10. ลุ่มน้ำแม่น้ำโขง ส่วนที่ 8 พื้นที่มีแนวสันปันน้ำสูงประมาณ 160 - 190 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีพื้นที่ประมาณ 1,145 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็นเขตลุ่มแม่น้ำย่อย แม่น้ำโขงส่วนที่ 8 กับลุ่มน้ำที่กั้นตลอดแนวทิศตะวันออกของลุ่มแม่น้ำติดกับแม่น้ำโขงจังหวัดนครพนม โดยมีทิศตะวันตกของลุ่มแม่น้ำเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำสายหลัก ได้แก่ ห้วยบ่อ, ห้วยบังกอ และห้วยบังฮวก มีพื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนเป็นภูเขาสูง ลาดชัด โดยจะลดหลั่นเป็นเนินสูง ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางเป็นที่ราบถึงลูกคลื่นลอนลาด โดยตอนล่างจะเป็นที่ค่อนข้างราบเรียบ ที่คลรอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดนครพนม มีลุ่มน้ำสาขาทั้งหมด 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ห้วยบังกอ, ห้วยบ่อ และห้วยบังฮวก
 
11. ลุ่มน้ำแม่น้ำโขง ส่วนที่ 9 มีพื้นที่ประมาณ 449 ตารางกิโลเมตร มีแนวสันปันน้ำสูงประมาณ 200 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยเป็นแนวแบ่งเขตระหว่างลุ่มแม่น้ำโขงส่วนที่ 9 และลุ่มแม่น้ำย่อยห้วยน้ำก่ำ, ลุ่มแม่น้ำย่อยห้วยบางทราบ ตลอดแนวทิศตะวันออกของลุ่มแม่น้ำจะอยู่ติดกับแม่น้ำโขงในจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งทางทิศตะวันตกของลุ่มแม่น้ำเป็นต้นกำเนิดของห้วยชะโนด พื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนซึ่งเป็นภูเขาสูง และลาดชัน เป็นเนินสูงตอนกลางเป็นที่ราบถึงลูกคลื่นลอนลาด ส่วนตอนล่างจะค่อนข้างราบเรียบ ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดนครพนม มีลุ่มแม่น้ำ 1 สาขา คือ แม่น้ำโขงส่วนที่ 9
 
12. ลุ่มน้ำห้วยคอง ขอบเขตลุ่มน้ำทางทิศเหนือ อยู่บนแนวสันปันน้ำของห้วยคองกับลำแม่น้ำย่อยที่ไหลลงสู่แม่น้ำโขง มีพื้นที่ประมาณ 709 ตารางกิโลเมตร ทิศตะวันออกจะอยู่บนแนวสันปันน้ำของห้วยซาวกับห้วยฮี้ ทางทิศตะวันตกจะอยู่บนแนวสันปันน้ำของห้วยอังฮ๋า ซึ่งอยู่ในลุ่แม่น้ำโขงส่วนที่ 7 ทางทิศใต้อยู่บนแนวสันปันน้ำห้วยคองกับห้วยขมิ้น และจุดบรรจบห้วยคองกับแม่น้ำสงคราม โดยครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดหนองคาย โดยมีลุ่มน้ำสาขา 2 ลุ่มน้ำ คือ ห้วยขาว และห้วยคองสายหลัก
 
13. ลุ่มน้ำห้วยดาน มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 675 ตารางกิโลเมตร มีขอบเขตของพื้นที่ทางด้านทิศเหนือที่อยู่บนจุดบรรจบระหว่างห้วยดานและห้วยหลวง ทางด้านทิศตะวันออกจะอยู่บนแนวสันปันน้ำห้วยดาน และห้วยหลวง ส่วนทางทิศใต้จะอยู่บนแนวปันลุ่แม่น้ำโขงอีสาน และลุ่มแม่น้ำชี สภาพพื้นที่โดยส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบที่ราดจากทางทิศใต้ และทิศตะวันออกมาทางทิศเหนือ ระดับความสูงประมาณ 170 - 190 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอุดรธานี มีลุ่มน้ำสาขา 2 ลุ่มน้ำ คือ ห้วยดานตอนบน และห้วยดานตอนล่าง
 
14. ลุ่มน้ำห้วยหลวง ตั้งอยู่ขอบเขตลุ่มน้ำทางเหนือจรดแม่น้ำโขงเขตแดนของประเทศไทย และสปป.ลาว มีพื้นที่ประมาณ 3,417 ตารางกิโลเมตร ทางด้านตะวันออกอยู่บนแนวสันปันน้ำระหว่างห้วยหลวง แม่น้ำสงคราม และห้วยคอง โดยด้านทิศตะวันตก และทิศใต้จะจรดภูเขาภูพานบนแนวสันปันน้ำ ตอนใต้ของลุ่น้ำจะมีแนวภูเขาภูพานที่โอบจากทางด้านทิศตะวันตกจนมาถึงทางทิศใต้ พื้นที่ลาดชันลงมาสุดแนวเขื่อนห้วยหลง ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดหนองคาย, จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองบัวลำภู มีลุ่มน้ำสาขาทั้งหมด 7 ลุ่มน้ำ คือ ห้วยหลวงส่วนที่ 1 - 6 และห้วยเจียม
 
15. ลุ่มน้ำห้วยฮี้ มีพื้นที่ประมาณ 743 ตารางกิโลเมตร อยู่ขอบเขตลุ่มน้ำทางทิศตะวันออกบนแนวปันน้ำของภูกิ่ว และแนวสันปันน้ำของลำน้ำสาขาของห้วยบังบาตร กับลำน้ำสาขาห้วยทราบใหญ่ โดยไหลลงไปที่อ่างเก็บน้ำห้วยฮี้ ซึ่งขอบเขตลุ่มน้ำทางทิศเหนือจะอยู่บนแนวสันปันน้ำของลำน้ำห้วยฮี้ กับลำน้ำสาขาที่ไหลลงกุดทิงหญ่ ส่วนทางทิศตะวันตกจอยู่ที่แนวสันปันน้ำของห้วยฮี้ กับแม่น้ำสงคราม ทิศใต้จะอยู่บนจุดบรรจบระหว่างห้วยฮี้กับแม่น้ำสงคราม ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม และจังหวัดหนองคาย มีลุ่มน้ำสาขาทั้งหมด 3 ลุ่มน้ำ คือ ห้วยทรายใหญ่, ห้วยฮี้ตอนบน - ตอนล่าง
 
16. ลุ่มน้ำห้วยน้ำปวน ประกอบด้วยลำน้ำสาขาที่สำคัญ 2 สาย มีพื้นที่ประมาณ 1,084 ตารางกิโลเมตร เป็นลำน้ำสวนที่ไหลมาจากแนวเขาทางทิศเหนือลงมาสู่ทางทิศใต้ และมาบรรจบกับลำน้ำปวน ซึ่งไหลมาจากที่ลาดสูงทางทิศเหนือก่อนจะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำเลย พื้นที่ส่วนใหญ่ลาดเทมีความชันไม่มากนักจากต้นแม่น้ำยังแม่น้ำสายหลัก และมีลักษณเป็นพื้นที่บริเวณ 2 ฝั่งลำแม่น้ำสายหลัก ตลดอดทั้งพื้นที่ลุ่มแม่น้ำมีแนวเขาไม่สูงมากนัก แต่จะครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเลย โดยมีลุ่น้ำสาขา 3 ลุ่มน้ำ คือ ห้วยปวนตอนบน-ตอนล่าง และห้วยน้ำสวย
 
17. ลุ่มน้ำห้วยน้ำหมัน มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 619 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยแนวเขาสูลตลอดทั้นพื้นที่ลุ่มแม่น้ำ โดยมีพื้นที่ราบเป็นส่วนน้อยโดยเฉพาะบริเวณลำน้ำหมันที่ตั้งอยู่ตอนกลางของพื้นที่จะมีลักษณะเป็นพื้นที่ราบแคบ ๆ ตามแนวลำน้ำของลุ่มน้ำไปจรดลำน้ำเหือง โดยมีแนวเขาทางทิศใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่น้ำตอนบนที่มีสภาพเป็นภูเขาสูง และมีความชันค่อย ๆ ลดหลั่นลงมาทางทิศเหนือซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำตอนล่าง ครอบคลุมจังหวัดเลย มีลุ่มน้ำสาขาทั้นหมด 2 ลุ่มน้ำ คือ น้ำหมันตอนบน-ตอนล่าง
 
18. ลุ่มน้ำแม่น้ำเลยตอนล่าง พื้นที่ส่วนใหญ่มีแนวเขาสูงชัน มีพื้นที่ประมาณ 2,922 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ต้นน้ำาจากทิศใต้ และทิศตะวันออก มีลำน้ำสาขาสายสำคัญ ได้แก่ น้ำคู้, น้ำเลย, น้ำฮวย, น้ำทบ, น้ำหมาน และน้ำลาย โดยจะมีแนวเขาที่อยู่ในระดับสูงจากทางทิศใต้ ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำเลย และจะค่อย ๆ ลดหลั่นมาทางทิศเหนือของพื้นที่ตอนล่างของลุ่มแม่น้ำ ครอบคลุมจังหวัดเลย มีลุ่มน้ำทั้งหมด 9 สาขา ได้แก่ แม่น้ำเลยส่วนที่ 1 - 4, น้ำคู้, น้ำทบ, ห้วยน้ำฮวย, ห้วยน้ำลาย และห้วยน้ำหมาน
 
19. ลุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนบน มีพื้นที่ประมาณ 3,270 ตารางกิโลเมตร อาณาเขตลุ่มน้ำทางเหนืออยู่บนสันปันน้ำระหว่างแม่น้ำสงครามกับห้วยฮี้ และห้วยคอง ทางด้านทิศตะวันออกจะแบ่งแม่น้ำสงครามออกเป็นลุ่มน้ำย่อยแม่น้ำสงครามตอนล่างมาที่จุดบรรจบห้วยคองกับแม่น้ำสงครามด้านทิศตะวันตกซึ่งอยู่บนแนวสันปันน้ำห้วยหลวงกับแม่น้ำสงคราม ส่วนทางทิศใต้จรดภูเขาภูพานที่แนวสันปันน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร, จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย มีลุ่มน้ำสาขาทั้งหมด 8 ลุ่มน้ำ คือ แม่น้ำสงครามตอนบนส่วนที่ 1 - 3, ห้วยศาลจอด, ห้วยผาลาด, ห้วยทวน, ห้วยโคน และห้วยคำมิต
 
20. ลุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่าง มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 3,065 ตารางกิโลเมตร ขอบเขตจะกินพื้นที่ลุ่มแม่น้ำทางทิศเหนือจรดลำห้วยในลุ่มแม่น้ำโขงส่วนที่ 7 ทิศตะวันออกจรดแม่น้ำโขง ทิศตะวันตกจะอยู่แนวบรรจบของห้วยคองกับแม่น้ำสงคราม ส่วนทางทิศใต้อยู่แนวบรรจบกับห้วยน้ำอูนกับแม่น้ำสงคราม โดยเป็นพื้นที่ลาดชัน มีเนินลอนลูกคลื่นลาดชันพื้นที่โดยส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งหญ้า หรือป่าไม้พุ่มเตี้ยโดยสลับกับพืชไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด คือ จังหวัดนครพนม และจังหวัดสกลนคร มีลุ่มแม่น้ำทั้งหมด 6 ลุ่มน้ำ ได้แก่ แม่น้ำสงครามตอบล่างส่วนที่ 1 - 3, ห้วยโนด, ห้วยซาง และห้วยน้ำเมา
 
21. ลุ่มน้ำห้วยน้ำยาม พื้นที่ทางทิศเหนือยู่แนวสันปันน้ำระหว่างลำน้ำสาขาของห้วยน้ำยาม และลำน้ำสาขาของแม่น้ำสงคราม และมาบรรจบห้วยน้ำยามกับแม่น้ำสงคราม ทางด้านทิศตะวันออกอยู่บนแนวสันปันน้ำของห้วยน้ำยาม และห้วยน้ำอูน ส่วนทางด้านทิศตะวันตกอยู่บนแนวสันปันน้ำของห้วยน้ำยาม กับลำน้ำสาขาแม่น้ำสงคราม ทางด้านทิศใต้อยู่บริเวณแนวสันปันน้ำภูผาเหล็ และภูผาทอง ครอบคลุม 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม และจังหวัดสกลนคร มีพื้นที่ประมาณ 1,730 ตารางกิโลเมตร มีลุ่มน้ำสาขา คือ ลำน้ำยามตอนบน, ห้วยโทง และลำน้ำยามตอนล่าง
 
22. ลุ่มน้ำห้วยน้ำอูน มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 3,542 ตารางกิโลเมตร โดยพื้นที่ทางทิศเหนือจะอยู่บนแนวสันปันน้ำอูนกับห้วยน้ำยาม และมาบรรจบกับห้วยน้ำอูนกับแม่น้ำสงครา ทางทิศตะวันออกอยู่บนแนวสันปันน้ำของห้วยน้ำอูนกับลำน้ำสาขาที่ไหลลงมาหนองหาน และห้วยน้ำอูนกับห้วยน้ำพุง ที่อยู่ทางทิศตะวันออกสันปันน้ำของภูผาทอง ซึ่งแนวสันแบ่งลุ่มน้ำย่อยแม่น้ำสงครามตอนบน, ห้วยน้ำยาม และห้วยน้ำอูน ทางทิศใต้จะอยู่แนวสันปันน้ำตามภูเขาก้อ, ภูนางงอย และภูเขียว โดยครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด คือ จังหวัดนครพนม และจังหวัดสกลนคร โดยมีลุ่นแม่น้ำ 4 สาขา คือ ลำน้ำอูนตอนบน ตอนกลาง ตอนล่าง และห้วยปลาหาง
 
23. ลุ่มน้ำห้วยทวย มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 782 ตารางกิโลเมตร พื้นที่มีลักษณะเป็นแนวแคบ ๆ ด้านเหนือสุดของภาคสภาพเป็นพื้นที่ลูกคลื่นติกันจนถึงเนินเขา โดยมีกลุ่มหินชุดโคราชรองรับอยู่ ห้วยทวยจะมีต้นกำเนิดจากที่ราบสูงบริเวณทางด้านทิศใต้ของอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร โดยไหลลงมาที่บริเวณบ้านปากทวย อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด คือ จังหวัดนครพนม และจังหวัดสกลนคร โดยมีลุ่มแม่น้ำสาขา 2 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ห้วยทวยตอนบน และห้วยทวยตอนล่าง
 
24. ลุ่มน้ำแม่น้ำพุง มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 836 ตารางกิโลเมตร โดยมีแนวสันปันน้ำสูงประมาณ 300 - 400 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยมีแขตระหว่างลุ่มแม่น้ำย่อยน้ำพุงกับลุ่มแม่น้ำย่อยน้ำอูน, ลุ่มแม่น้ำย่อยห้วยน้ำก่ำ และลุ่มแม่น้ำย่อยห้วยบางทราย จังหวัดสกลนคร โดยอยู่ทางทิศเหนือ และทิศตะวันตกของลุ่มน้ำเป็นต้นกำเนิดของลุ่มน้ำพุง พื้นที่ลุ่นน้ำตอนบนจะเป็นภูเขาสูง ลาดชัน และลดหลั่นเป็นเนินสูง ตอนกลางถึงตอนล่างเป็นที่ราบและลูกคลื่น ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดสกลนคร มีลุ่มน้ำสาขา 2 ลุ่มน้ำ คือ น้ำพุงตอนบน และน้ำพุงตอนล่าง
 
25. ลุ่มน้ำห้วยน้ำก่ำ มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ  2,678 ตารางกิโลเมตร มีความสูงประมาณ 300 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีแนวแบ่งเขตระหว่างลุ่มแม่น้ำย่อยลำน้ำก่ำ, กับลุ่มแม่น้ำย่อยลำน้ำพุง, ลุ่มน้ำย่อยแม่น้ำโขงส่วนที่ 8 และลุ่มน้ำย่อยห้วยชะโนดในจังหวัดสกลนคร โดยทางทิศเหนือ ทิศตะวันตกของลุ่มน้ำจะเป็นต้นกำเนินของลำน้ำบัง และลำน้ำก่ำ โดยพื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนจะเป็นภูเขาสูงที่ลาดชัน และลดหลั่นเป็นเนินสูง โดยตอนกลางจะเป็นที่ราบถึงลูกคลื่นลอนลาด ส่วนตอนล่างจะเป็นพื้นที่ค่อนข้างราบเรียบ โดยครอบคลุมพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม และจังหวัดสกลนคร โดยมีลุ่มน้ำสาขา 6 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลำน้ำก่ำส่วนที่ 1 - 4, น้ำบังตอนบน-ล่าง
 
26. ลุ่มน้ำห้วยบางทราย มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 1,398 ตารางกิโลเมตร มีความสูงประมาณ 300 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยแบ่งเขตแดนระหว่างลุ่มน้ำย่อยหัวยบางทราย, ลุ่มน้ำย่อย, ลุ่มน้ำก่ำห้วยชะโนด, ลุ่มน้ำย่อยห้วยมุก, ลุ่มน้ำย่อยห้วยบังอี่ ในจังหวัดมุกดาหาร และทางทิศเหนือ ทิศตะวันตกของลุ่มแม่น้ำจะเป็นต้นกำเนิดของห้วยบางทราย พื้นที่ลุ่นน้ำตอนบนจะเป็นภูเขาสูง ที่จะลาดชัน และลดหลั่นเป็นเนินสูง โดยตอนกลางจะเป็นที่ราบลูกคลื่นลอนลาด ส่วนตอนล่างจะเป็นที่ราบเรียบ ครอบคุลม 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดมุกดาหาร, จังหวัดสกลนคร และจังหวัดนครพนม มีลุ่มน้ำสาขาทั้งหมด 4 ลุ่มน้ำ คือ ห้วยบางทราบส่วนที่ 1 - 4
 
27. ลุ่มน้ำห้วยมุก มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 797 ตารางกิโลเมตร มีแนวสันปันน้ำทางทิศตะวันตก สูประมาณ 332 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยแบ่งเขตแดนระหว่างลุ่มน้ำย่อยห้วยมุก และลุ่มน้ำย่อยห้วยบังอี่ในจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นต้นกำเนิดขอลำน้ำห้วยมุก พื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนจะเป็นภูเขาสูง และเป็นที่่ลาดชันโดยจะลดหลั่นเป็นเนินสูง ทางตอนกลางจะเป็นที่ราบถึงลูกคลื่นลอนลาด ส่วนตอนล่างจะเป็นพื้นที่ค่อนข้างราบเรียบ ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดมุกดาหาร มีลุ่มน้ำสาขา 2 ลุ่มน้ำ คือ ห้วยมุกตอนบน และห้วยมุกตอนล่าง
 
28. ลุ่มน้ำห้วยบังอี่ มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 1,564 ตารางกิโลเมตร มีแนวเทือกเขาสูงประมาณ 400 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีแนวเขตระหว่างลุ่มน้ำย่อยห้วยบังอี่กับลุ่มแม่น้ำย่อยห้วยบางทราย, ลุ่มน้ำย่อยห้วยมุก และลุ่มน้ำย่อยแม่โขงตอนล่างของจังหวัดมุกดาหาร โดยทางทิศเหนือ และทิศตะวันตกของลุ่มแม่น้ำ จะเป็นต้นกำเนิดของห้วยบังอี่ พื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนจะเป็นภูเขา ลดหลั่น และลาดชัน ตอนกลางจะเป็นที่ราบถึงลูกคลื่นลอนลาน ส่วนตอนล่างจะเป็นที่ค่อนข้างราบเรียบ ครอบคลุมจังหวัดมุกดาหาร มีลุ่มน้ำสาขา 3 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ห้วยบังอี่ตอนบน-ตอนกลาง-ตอนล่าง
 
29. ลุ่มน้ำโขงตอนล่าง มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 3,358 ตารางกิโลเมตร สภาพของพื้นที่โดยทั่วไปมีแนวเทือกเขาสูงประมาณ 500 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จะอยู่ทางทิศเหนือ และทิศตะวันตกของลุ่แม่น้ำ และมีแนวแบ่งเขตระหว่างลุ่มแม่น้ำสาขาแม่น้ำโขงตอนล่างกับลุ่มแม่น้ำสาขาห้วยบังอี่ โดยทอดยาวมาจากจังหวัดมุกดาหารถึงจังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ลุ่มน้ำตอนบนเป็นภูเขาลาดชันที่ลดหลั่นเป็นเนินสูง นอกจากนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของห้วยบังอี่ พื้นที่ตอนกลางเป็นที่ราบ และลูกคลื่นลอนลาด ส่วนทางตอนล่างจะเป็นพื้นที่ค่อนข้างราบเรียบ

บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร หมวดหมู่: บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร

รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร กลุ่ม: รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร

ปรับปรุงล่าสุด : 4 ปีที่แล้ว

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(20)

แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(5)

ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(7)

พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์(6)

อาร์ตแกลเลอรี่ อาร์ตแกลเลอรี่(1)

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ

ไร่ สวนเพื่อการศึกษา ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(4)

มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

วัด วัด(30)

มัสยิด มัสยิด(1)

สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(6)

โครงการในพระราชดำริ โครงการในพระราชดำริ

โครงการหลวง โครงการหลวง(3)

วิถีชีวิต วิถีชีวิต

หมู่บ้าน ชุมชน หมู่บ้าน ชุมชน(6)

ตลาดท้องถิ่น ตลาดท้องถิ่น(4)

ตลาดน้ำ ตลาดน้ำ(1)

ธรรมชาติ และสัตว์ป่า ธรรมชาติ และสัตว์ป่า

อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(3)

ดอย และภูเขา ดอย และภูเขา(5)

เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(8)

น้ำตก น้ำตก(9)

น้ำพุร้อน น้ำพุร้อน(1)

ถ้ำ ถ้ำ(2)

ทุ่งดอกไม้ ทุ่งดอกไม้(1)

แม่น้ำลำคลอง แม่น้ำลำคลอง(8)

อ่าว และชายหาด อ่าว และชายหาด(2)

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(3)

บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(1)

แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์ แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(1)

ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(21)

สวนน้ำ สวนน้ำ(2)

กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(6)

ช้อปปิ้ง ช้อปปิ้ง

ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(2)

บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร

รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(5)