
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

Rating: 3.2/5 (6 votes)




สถานที่ท่องเที่ยวลำปาง
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อยู่ในอำเภอเมืองปาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมสูงและเป็นแหล่งที่ดำเนินงานตามแนวพระราชดำรัสในการใช้พลังงานน้ำธรรมชาติมาประยุกต์การดำเนินงานอย่างสอดคล้องเป็นประโยชน์
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่มและอำเภอเมืองลำปาง มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร เนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 592 ตารางกิโลเมตร
ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2531 เป็นแนวแบ่งเขตระหว่างลำปางและเชียงใหม่ มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีน้ำตกและบ่อน้ำร้อนอยู่ในบริเวณเดียวกัน ซึ่งถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ฤดูที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวและมีอากาศเย็นสบาย คือเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่
บ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยา มีกลิ่นกำมะถันอ่อนๆ จำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณพื้นที่ที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 3 ไร่ ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และมีไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมาจากบ่อปกคลุมรอบบริเวณ น้ำพุร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส เป็นที่นิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่ สำหรับไข่ไก่แช่นานประมาณ 17 นาที ไข่แดงจะแข็งมีรสชาติมันอร่อย ส่วนไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า
น้ำตกแจ้ซ้อน เป็นน้ำตกที่กำเนิดจากลำน้ำแม่มอญ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีแอ่งน้ำรองรับอยู่ตลอดสาย ไหลตกลงมาเป็นชั้นๆ มี 6 ชั้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 3 กิโลเมตร มีทางเดินไปสะดวกและสามารถเดินทางจากบ่อน้ำพุร้อนไปถึงน้ำตกได้
น้ำตกแม่มอญ เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลแรงจากชะง่อนผาสูงลงสู่หุบเหวเบื้องล่าง น้ำจะตกลงมาเป็นชั้นๆ สวยงาม ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 5 กิโลเมตร
น้ำตกแม่ขุน อยู่ใกล้กับน้ำตกแม่มอญ มีลักษณะเป็นน้ำตกสายยาว สูงประมาณ 100 เมตร ไหลลงมาบรรจบกับน้ำตกแม่มอญต้องเดินทางจากที่ทำการอุทยานฯ 5 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำทาง
ถ้ำผางาม ห่างจากที่ว่าการอำเภอวังเหนือ 8 กิโลเมตร อยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์ฯ ที่แจ้ซ้อน 3 (ผางาม) หน่วยนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 60 กิโลเมตร มีถ้ำที่สามารถเข้าไปศึกษาและท่องเที่ยวได้ เช่น ถ้ำฟ้างาม ถ้ำน้ำ ถ้ำหม้อ เป็นต้น
ชมดอกเสี้ยวบาน ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี ดอกเสี้ยวจะบานเต็มผืนป่า นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมดอกเสี้ยวบานได้ตามเส้นทางแจ้ซ้อน-บ้านป่าเหมี่ยง เป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร
แอ่งน้ำอุ่น อยู่ติดกับบ่อน้ำพุร้อน เป็นแอ่งน้ำที่เกิดจากการไหลมาบรรจบกันของน้ำพุร้อนและน้ำเย็นที่มาจากน้ำตกแจ้ซ้อนทำให้เกิดเป็นน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิเหมาะแก่การแช่อาบ
ห้องอาบน้ำแร่ มีทั้งห้องอาบแร่ สำหรับ 3-4 คน ห้องรวมแบบตักอาบและบ่อสำหรับแช่อาบกลางแจ้ง น้ำแร่ที่ใช้ต่อท่อโดยตรงมาจากบ่อน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิน้ำแร่ประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถใช้แช่อาบได้
ประโยชน์ของการอาบน้ำแร่คือ ช่วยบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น กลาก เกลื้อน ผื่นคัน และยังช่วยบรรเทาอาการของโรคกระดูก แต่น้ำแร่จากที่นี่ไม่สามารถใช้ดื่มได้เพราะมีแร่ธาตุบางชนิดสูงกว่ามาตรฐาน ค่าบริการ ห้องส่วนตัว 50 บาท/คน สระน้ำรวม 20 บาท/คน บ่อกลางแจ้ง 10 บาท/คน อุทยานฯได้จัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติไว้ 2 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแจ้ซ้อน ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1.30 ชั่วโมง ผ่านจุดสื่อความหมาย 24 จุด ผ่านสภาพป่าและพรรณไม้ที่น่าสนใจหลายชนิด รวมถึงอาจพบสัตว์หายาก เช่น นกเขนเทาหางแดงและปลาปุงแห่งลำห้วยแม่มอญ เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับเยาวชนผู้สนใจศึกษาพรรณไม้ต่างๆ เช่น ต้นก๋ง กวาวเครือ หรือยางปาย
ศึกษาระบบนิเวศน์ เช่น วงจรชีวิตหนอนรถด่วน และสภาพภูมิศาสตร์โดยรอบลานน้ำพุร้อน เช่น อะไรทำให้เกิดบ่อน้ำพุร้อน ทำไมน้ำพุร้อนทำให้ไข่แดงสุกแต่ไข่ขาวเหลว หรือจักจั่นน้ำแร่เป็นอย่างไร (จั๊กจั่นน้ำแร่มีชุกในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม)
แอ่งอาบน้ำอุ่นที่เกิดจากน้ำร้อนในบ่อน้ำพุร้อนมาบรรจบกับน้ำเย็นที่มาจากน้ำตกแจ้ซ้อน อุทยานฯใช้ไฟฟ้าที่ผลิตเองจาก โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ซึ่งอยู่ในเส้นทางนี้ด้วย สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 60 กิโลวัตต์ ผู้สนใจสามารถขับรถขึ้นไปดูได้ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร แต่ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะสภาพทางค่อนข้างชัน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกแม่เปียก ระยะทางประมาณ 3.7 กิโลเมตร เป็นเส้นทางวงรอบเลียบริมห้วยแม่เปียก ผ่านจุดสื่อความหมาย 19 จุด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางให้ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศน์ การนำทรัพยากรป่าไม้มาใช้ประโยชน์ เช่น น้ำมันยาง สารพัดประโยชน์ที่นำมาใช้กับเครื่องยนต์จนถึงทำน้ำมันใส่แผล ไผ่ข้าวหลาม ที่มีเปลือกบางเผาง่าย เมี่ยง(ชา) ที่ใบอ่อนนำมานึ่งแล้วหมักมาทำเป็นเมี่ยงนิยมรับประทานเป็นของว่างใช้ต้อนรับแขกทางภาคเหนือของไทย
ยอดอ่อนนำมาอบแห้งแล้วชงกับน้ำร้อนดื่มเป็นชา ซึ่งเมี่ยง(ชา) มีสารคาเฟอีนออกฤทธิ์เช่นเดียวกับกาแฟ แหย่ง ใบใช้ห่ออาหารแทนใบตอง หรือนำลำต้นไปตากให้แห้งแล้วสานเป็นเสื่อ หรือแม้แต่การสร้าง ฝายน้ำล้น ที่นำไปผลิตไฟฟ้าพลังน้ำเพื่อใช้ภายในอุทยานฯ ระหว่างเส้นทางถ้าโชคดีอาจพบ หมูป่า และเต่าปูลู ที่มีลักษณะไม่เหมือนเต่าทั่วไปและกำลังจะสูญพันธุ์ เต่าปูลูมีหางยาว หัวและขาไม่สามารถหดเข้าไปในกระดองเหมือนเต่าทั่วไปได้
มีความสามารถในการปีนป่ายและกินสัตว์จำพวกปูหรือปลา เป็นอาหาร ในเส้นทางมีน้ำตกวังไฮ และน้ำตกแม่เปียก ซึ่งน้ำตกแม่เปียกนั้นมี 3 ชั้น และชั้นที่ 3 มีความสวยงามที่สุดโดยมีความสูงประมาณ 100 เมตร ด้านล่างบริเวณแอ่งรองรับน้ำจากน้ำตกมีกล้วยป่าขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วไปทำให้มีความสวยงาม
สภาพแวดล้อมภายในอุทยานฯ ตกแต่งได้อย่างสวยงามกลมกลืนกับธรรมชาติไม่แพ้รีสอร์ทเอกชน เหมาะสำหรับผู้ที่ไปพักผ่อนกับครอบครัว สามารถเที่ยวได้ตลอดปี ฤดูหนาวมีนักท่องเที่ยวมากที่สุด
บ้านพักในอุทยานฯ มี 11 หลัง พักได้หลังละ 6-20 คน ห้องน้ำสะอาดและมีเครื่องอำนวยความสะดวกพร้อม มีสถานที่กางเต็นท์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บริการ เช่น ไฟฟ้า เตาประกอบอาหาร ค่ากางเต็นท์ คนละ 30 บาท อุทยานฯ มีร้านอาหารสวัสดิการบริการ รายละเอียดติดต่อ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โทร.0 5438 0000, 08 9851 3355 หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. 0 2562 0760-2 www.dnp.go.th
อัตราค่าเข้า คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
การเดินทาง
โดยรถยนต์ จากสนามกีฬาประจำจังหวัดไปตามถนนสายลำปาง-ห้างฉัตร (สายเก่า) เลี้ยวขวาที่สามแยกบ้านน้ำโท้งไปตามทางหลวงหมายเลข 1147 สายลำปาง-ห้วยเป้ง-เมืองปาน ประมาณ 55 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1287 สายเมืองปาน-แจ้ห่ม ไปประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1252 สายข่วงกอม-ปางแฟน อีก 11 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานฯ ไปตามถนน รพช. อีก 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองลำปางประมาณ 75 กิโลเมตร
จากตัวเมืองลำปางไปตามทางหลวงหมายเลข 1035 สายลำปาง-แจ้ห่ม ไปจนถึงประมาณกิโลเมตรที่ 58 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1287 ซึ่งเป็นทางเข้าไปอำเภอเมืองปาน แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยกใช้ทางหลวงหมายเลข 1252 สายข่วงกอม-ปางแฟน ประมาณ 11 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานฯ ไปตามถนน รพช. อีก 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ
จากจังหวัดเชียงใหม่ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1006 ผ่านอำเภอสันกำแพง แล้วเข้าสู่ถนนสานถ้วยแก้ว-บ้านแม่กำปอง ผ่านบ้านป่าเมี่ยง ถึงที่ทำการอุทยานฯ
โดยรถประจำทาง นั่งรถสายลำปาง-แจ้ซ้อน จากถนนตลาดเก่าระหว่างเวลา 08.00-18.00 น. หรือเหมารถประมาณ 350 บาท มายังอุทยานฯ







แสดงความเห็น
คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage