
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยเบิ้งโคกสลุง

Rating: 3.2/5 (9 votes)




สถานที่ท่องเที่ยวลพบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยเบิ้ง ที่บ้านโคกสลุง จ.ลพบุรี ก่อตั้งขึ้นเนื่องจากชาวไทยเบิ้งที่อาศัยอยู่บริเวณรอบ ๆ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน ทำให้พื้นที่บ้านเรือนดั้งเดิมหายไป ชาวบ้านเกรงว่าวัฒนธรรม ประเพณี
และวิถีชีวิตการทำมาหากินแบบเก่าของชาวไทยเบิ้งจะหายไปด้วย จึงรวมตัวกันทำประชาพิจารณ์ในปี พ.ศ. 2541 และตกลงกันก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ไทยเบิ้ง เพื่อแสดงอัตลักษณ์และรักษาวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมไว้ให้ลูกหลาน
ชาวไทยเบิ้งโคกสลุงมีสำเนียงการพูดคล้ายภาษาไทยภาคกลาง แต่ออกเสียงเหน่อ สิ่งที่เป็นอัตลักษณ์เด่นชัดที่สังเกตได้คือ การแต่งกายและของใช้จำเป็น โดยผู้หญิงสูงอายุจะนุ่งโจงกระเบน ใส่เสื้อกระโจมหรือเสื้ออีหิ้ว ผ้าขาวม้าพาดบ่า นิยมกินหมาก สะพายย่ามสีแดง
สำเนียงการพูดออกเสียงเหน่อ มีคำพูดที่แปลกจากภาษากลางบางคำ และมักลงท้ายด้วยคำว่าเบิ้ง เติ้ง เหว่ย ด๊อก ซึ่งบอกได้ว่าเป็นคนไทยเบิ้งโคกสลุง
นามสกุลชาวไทยเบิ้งโคกสลุงจะขึ้นต้นหรือลงท้ายด้วยคำว่า “สลุง” ดังนั้น ถ้าหากใครมีนามสกุลลงท้ายด้วยสลุงต้องมีเทือกเถาเหล่าอยู่ที่โคกสลุงเป็นแน่
ทั้งนี้ ความเป็นมาของชาวไทยเบิ้งนั้นถือว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกับชาวไทยโคราช แต่อพยพโยกย้ายมาตั้งถิ่นฐานบริเวณพื้นที่ จ.ลพบุรี มีภาษาและวัฒนธรรมหลายอย่างคล้ายกับไทยโคราช เอกลักษณ์ของไทยเบิ้งคือภาษาที่มักจะลงท้ายประโยคด้วยคำว่า “เบิ้ง” หรือ “เติ้ง” ทำให้คนทั่วไปเรียกคนกลุ่มนี้ว่าไทยเบิ้ง
ในพิพิธภัณฑ์ไทยเบิ้งได้จำลองบ้านที่อยู่อาศัยของไทยเบิ้งแบบดั้งเดิมคือ เป็นเรือนฝาคร้อเสาสูง ขึ้นลงด้วยบันไดแบบชักออกได้ ค่อนข้างแคบและชัน แต่สามารถใช้งานได้จริง เมื่อขึ้นไปบนบ้านส่วนแรกที่พบคือ ชานบ้านไม่มีหลังคา เปิดลานโล่งรับลม ใช้สำหรับนั่งกินข้าวเย็นในครอบครัว เรียกว่าการกินข้าวล่อ คือนั่งเห็นหน้าเห็นตากันระหว่างกินข้าว ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันในครอบครัว
คนไทยเบิ้งมักจะทำกับข้าวเย็นเพียงอย่างเดียว จากนั้นจะนำไปแบ่งญาติ ๆ อีกหลายบ้านเพื่อแลกเปลี่ยนกับข้าวกัน สร้างความผูกพันระหว่างญาติพี่น้อง ปัจจุบันชาวไทยเบิ้งโคกสลุงบางส่วนออกไปรับจ้างทำงานนอกหมู่บ้าน วัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนกับข้าว กินข้าวล่อ ก็เริ่มน้อยลง
ฝาบ้านไทยเบิ้งทำด้วยต้นคร้อซึ่งเป็นต้นปาล์มชนิดหนึ่ง มีความคงทน ใช้งานได้ถึง 20-30 ปี มี 3 ชั้น ชั้นนอกสุดทำหน้าที่รับแดดรับลมเป็นใบคร้อ ชั้นกลางเป็นแฝก ชั้นในสุดคือไม้ไผ่สับฟาก ในบ้านเป็นห้องโล่ง เจ้าของบ้านจะนำฟูก มุ้ง และหมอนนอน ไว้มุมหนึ่ง เมื่อมีแขกมาก็จะหาฟูกและมุ้งมาให้ปูนอนเพิ่ม ส่วนที่ประตูบ้านและตามฝาผนังก็แขวนเครื่องมือทำมาหากิน เช่น ไซดักปลา แห กระดึงผูกคอสัตว์ รวมถึงปืนผาหน้าไม้ที่ใช้ในการล่าสัตว์
เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมชาวไทยเบิ้ง คนไทยแห่งลุ่มน้ำป่าสัก จ.ลพบุรี ที่ช่วยกันอนุรักษ์และฝากมายังคนรุ่นหลังว่าอย่าลืมรากเหง้าตัวเองเบิ้ง




แสดงความเห็น
คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|