Rating: 3.5/5 (6 votes)
สถานีรถไฟหัวลำโพง
สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือเรียกกันทั่วไปว่า หัวลำโพง เป็นสถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีรถไฟที่ใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งมีลักษณะการก่อสร้างเป็นรูปโดม โดยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรถไฟที่สะดวกสบาย ให้บริการซื้อ และจองตั๋วผ่านระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมด้วยบริการครบครัน สำหรับนักเดินทาง ตลอดจนการขนส่งสินค้าจากทุกภาคของประเทศ โดยเริ่มก่อสร้างในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 คือในปี พ.ศ.2453 การก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดใช้บริการอย่างเป็นทางการโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ ทรงกระทำพิธีกดปุ่มสัญญญาณไฟฟ้าให้รถไฟขบวนแรกเดินเข้าสู่สถานีกรุงเทพ ขึ้นเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2459
สถานีรถไฟกรุงเทพ สร้างอยู่บนพื้นที่ 120 ไร่เศษ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีเดิมไปทางทิศใต้ ประมาณ 500 เมตร ตั้งอยู่ในท้องที่ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพฯ โดยมีอาณาเขต
- ทิศเหนือ โดยจะจรดคลองมหานาค
- ทิศใต้ โดยจะจรดถนนพระราม 4
- ทิศตะวันออก โดยจะจรดถนนรองเมือง
- ทิศใต้ โดยจะจรดคลองผดุงกรุงเกษม
สถานีรถไฟหัวลำโพง สำหรับที่ตั้งของสถานีกรุงเทพเดิมซึ่งอยู่บริเวณที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้นทรงประกอบพระราชพิธีเริ่มการก่อสร้าง และเปิดเดินรถไฟหลวงนั้น โดยหลังจากได้ก่อสร้างสถานีกรุงเทพหลังปัจจุบันแล้วจึงรื้อถอนออกไป ต่อมาผู้ปฏิบัติงานรถไฟได้ร่วมกัน จึงสละทรัพย์สร้างเป็นอนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวงขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2533 ก็เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นอนุสรณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์แก่อนุชนรุ่นหลังสืบต่อไป
สถานีกรุงเทพ นั้นมีแบบก่อสร้างเป็นรูปโดมสไตล์อิตาเลียนผสมผสานกับศิลปะยุคเรอเนสซองมีลักษณะคล้ายกับรถไฟเมืองแฟรงค์เฟิร์ตในประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันอีกทั้งวัสดุในการก่อสร้างก็จะเป็นวัสดุสำเร็จรูปจากเยอรมันนี เช่นกันลวดลายต่างๆที่ประดับไว้เป็นศิลปะที่มีความวิจิตรสวยงามมาก โดยบันไดและเสาอาคารบริเวณทางขึ้นที่ทำการกองโดยสาร หรือโรงแรมราชธานีเดิมเป็นหินอ่อน และเฉพาะเพดานเป็นไม้สักสลักลายนูน ซึ่งหาดูได้ยาก โดยมีจุดเด่นของสถานีกรุงเทพอีกอย่างหนึ่งคือ กระจกสีที่ช่องระบายอากาศ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งจะติดตั้งไว้อย่างผสมผสานกลมกลืนกับตัวอาคารเช่นเดียวกับนาฬิกาบอกเวลาที่มีอายุเก่าแก่เท่า ๆ กับตัวอาคารสถานี โดยจะติดตั้งไว้ที่กึ่งกลางยอดโดมสถานี เป็นนาฬิกาที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะไม่ระบุชื่อบริษัทผู้ผลิตแสดงให้เห็นเหมือนนาฬิกาอื่น ๆ นาฬิกาเรือนนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 160 เซนติเมตร โดยจะควบคุมด้วยไฟฟ้าระบบดี.ซี.จากห้องชุมสายเป็นเครื่องบอกเวลาแก่ผู้สัญจรผ่านไป-มา และผู้ใช้บริการที่สถานีกรุงเทพจนถึงปัจจุบันนี้
บริเวณด้านหน้าสถานีกรุงเทพนั้นจะมีสวนหย่อม และน้ำพุสำหรับประชาชน โดยข้าราชการรถไฟได้รวบรวมทุนทรัพย์เป็นมูลค่า 9,150.00 บาท จัดสร้างอนุสาวรีย์น้อมเกล้าฯ ซึ่งจะอุทิศส่วนกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงอนุสาวรีย์ที่ว่านี้เป็นรูปมีพระบรมฉายาลักษณ์ด้านข้างแบบลายนูนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ประดิษฐานอยู่สถานีกรุงเทพใช้เป็นที่รับ-ส่ง ทั้งผู้โดยสารและสินค้า โดยหากถ้าเรายืนอยู่บริเวณด้านหน้าสถานี และหันหน้าเข้าสู่สถานีหลังคารูปครึ่งวงกลมจะเป็นส่วนให้บริการแก่ผู้โดยสาร โดยพื้นที่ด้านขวามือเป็นที่ตั้งของโรงแรมราชธานี ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นที่ทำการกองโดยสาร และด้านซ้ายมือจะเป็นที่ทำการรับ-ส่งสินค้า ในปัจจุบันนั้นเป็นจุดจอดรถแท๊กซี่ สินค้านี้โดยในส่วนพื้นที่บริการด้านสินค้านี้ การรถไฟฯ นั้นได้พิจารณาให้ย้ายไปอยู่ที่ย่านสินค้าพหลโยธินตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 แต่เนื่องจากมีการขยายตัวทั้งด้านการโดยสาร สินค้า ประกอบกับการจราจรบริเวณหน้าสถานีเริ่มมีปัญหา โดยเพื่อปรับปรุงย่านสถานีกรุงเทพเสียใหม่ให้สามารถรองรับการโดยสารที่มีความหนาแน่นเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี
ในการปรับปรุงอาคารสถานีกรุงเทพจะประกอบด้วยการปรับปรุงพื้นที่ 2 ข้างในห้องโถงอาคารให้เป็นร้านขายอาหารและร้านค้า โดยจะมีชั้นลอยเพื่อเป็นที่นั่งคอยของผู้โดยสารเป็นการเพิ่มบริการให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายในการนั่งรอและสามารถเลือกซื้อ อาหาร ตลอดจนของใช้จำเป็นอื่น ๆ ซึ่งได้ตามความต้องการโดยมีร้านค้าหลากหลาย อาทิ ร้านอาหาร, ขนม, เครื่องดื่ม, อาหารจานด่วน, ผลไม้ขนมปังและเบเกอรี่, ไอศกรีม, อุปกรณ์การเดินทาง, หนังสือ และร้านขายยา เป็นต้น ซึ่งนอกจากนี้ยังมีบริษัทที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยว, บริการแลกเปลี่ยนเงินตรา, บริษัทรับจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน, ตู้ เอ.ที.เอ็ม. และห้องละหมาด เป็นต้น
สำหรับห้องจำหน่ายตั๋วประจำวันก็ได้จัดสร้างขึ้นใหม่ โดยจะหันหน้ารับผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาในสถานีบนชั้น 2 ห้อง ซึ่งการขายตั๋วทำเป็นพื้นที่ทำงานของพนักงาน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและสะดวกในการปฏิบัติงาน โดยในส่วนที่เป็นห้องโถงจะคงสภาพเดิมไว้เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก ๆ ได้ในส่วนชานชาลาได้เพิ่มเติมร้านขายของ และจัดเป็นที่พักสำหรับผู้โดยสารที่มารอการเดินทางด้วย ทางด้านข้างของอาคารสถานีทิศตะวันตก หรือคลองผดุงกรุงเกษม ก่อสร้างเป็นหลังคาคลุมใหม่เป็นรูปโค้งครึ่งวงกลมครอบคลุมพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับรองรับผู้โดยสารขาเข้าและขาออกให้ได้รับความสะดวกมากขึ้นกว่าเดิมการปรับปรุงเพื่อพลิกโฉมของสถานีกรุงเทพใหม่ที่กล่าวมานี้แล้วเสร็จ และจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2541 สถานีกรุงเทพ จึงเป็นสถานีเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง
ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟ ในแต่ละวันจะมีขบวนรถเข้า-ออก ซึ่งประมาณ 200 ขบวน และมีผู้โดยสารเดินทางเข้านับหมื่นคนเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์สำคัญๆ เช่น ปีใหม่, สงกรานต์ และเข้าพรรษา หรือตรุษจีนจะมีผู้คนหลั่งไหลมาใช้บริการที่สถานีกรุงเทพนี้นับแสนคนจนสถานที่อันกว้างขวางโอ่โถงของสถานีแห่งนี้ดูคับแคบลงไปเลยทีเดียวนอกจากความเก่าแก่แล้วยังเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และศิลปกรรม และการคมนาคมขนส่งสมควรยิ่งที่จะต้องอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกของชาติและอนุชนรุ่นหลังสืบไป
หมวดหมู่: ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
กลุ่ม: สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์
ปรับปรุงล่าสุด : 6 เดือนที่แล้ว