หน้าหลัก > ภาคกลาง > จ.กรุงเทพมหานคร > อ.พระนคร > ต.พระบรมมหาราชวัง > ขนมสัมปันนี วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ
Rating: 2.9/5 (8 votes)
ขนมสัมปันนี วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ
ขนมสัมปันนี วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ ขนมชาววังชนิดนี้มีการบันทึกว่ามาจากท้าวทองกีบม้า หรือท่านผู้หญิงของฟอลคอน เวลานั้นท่านได้รับเกียรติเป็นต้นห้องเครื่องหวานของพระเจ้าแผ่นดิน และสอนชาวสยามจึงได้รับอิทธิพลมาจากโปรตุเกส
ขนมสัมปันนี ขนมชาววัง ที่มีประวัติมาช้านานตั้งแต่รัชสมัยของพระนารายณ์ รูปร่างคล้ายดอกไม้มีสีสันสวยงาม ปัจจุบันมีสัมปันนี 2 สูตรคือสูตรกรอบอร่อย และสูตรนุ่มละมุนลิ้นแบบไม่ต้องอบ ถือเป็นขนมหวานของไทยที่มีรสชาติหอมหวานของกะทิ และน้ำตาล เวลาทานจะรู้สึกเหมือนละลายในปาก ท่านใดชอบความหอมของควันเทียน ก็สามารถอบควันเทียนได้เช่นกัน นอกจากจะได้ความภูมิใจที่ได้ทำขนมไทยหอมอร่อยไว้ทานเองแล้ว เรายังได้ความสนุกสนาน และความคิดสร้างสรรค์จากการได้ผสมสี และพิมพ์ขนมเป็นรูปแบบต่าง ๆ อีกด้วย
ขนมไทย ขนมโบราณ ขนมหวานไทย นั้นมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทย คือ จะมีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน โดยมีสีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีที่ประณีตบรรจง ขนมไทยดั้งเดิม ขนมโบราณ นั้นจะมีส่วนผสมคือ แป้ง, กะทิ และน้ำตาล เท่านั้น
โดยในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่า งานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร โดยส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาสวยงาม และมีความประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม
ส่วนผสม ขนมสำปันนี (ขนมหวานไทย)
- แป้งมันสำปะหลัง 5 ถ้วย
- แป้งนวล (สำหรับโรยขนม)
- เทียนสำหรับอบขนม
- กะทิสด 3 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
- สีผสมอาหารสีเขียวและแดง (หรือสีอื่นตามชอบ)
- พิมพ์ดอกไม้
วิธีทำขนมไทย ขนมสำปันนี (สูตรขนมไทย)
1. ขั้นตอนแรกนำแป้งมันไปคั่วในกระทะด้วยไฟอ่อนจนแป้งสุก โดยสังเกตจากแป้งจะลื่น ไม่ติดกระทะ จากนั้นใส่แป้งลงในหม้อที่มีฝาปิด แหวกแป้งเป็นช่องตรงกลาง โดยจุดเทียนสำหรับอบ ดับไฟให้เหลือแต่ควันแล้วใส่ถ้วยเล็ก ๆ นำไปวางไว้ตรงกลางแป้ง ปิดฝา อบควันเทียน 3 รอบ รอบละ 15 - 30 นาที (หรืออบข้ามคืนจะทำให้ขนมหอมยิ่งขึ้น)
2. ขั้นตอนต่อไปให้ใส่น้ำตาลทรายลงในกระทะทองเหลืองแล้วกรองกะทิใส่ตามลงไป นำขึ้นตั้งไฟกลางคนเบา ๆ จนน้ำตาลทรายละลาย หมั่นปาดขอบกระทะด้วย แต่ไม่ต้องคนบ่อยมาก รอจนเดือดจากนั้นลดเป็นไฟอ่อน จากนั้นเคี่ยวต่อจนเริ่มเป็นยางมะตูม ยกลงจากเตา ใช้พายคนจนน้ำเชื่อมขุ่นคล้ายนมข้น พักทิ้งไว้จนอุ่น
3. แบ่งน้ำเชื่อมเป็น 2 ถ้วย แล้วหยดสีผสมอาหารลงไปคนผสมให้เข้ากัน จากนั้นแบ่งแป้งเป็น 2 ส่วน ใส่ลงไปในน้ำเชื่อมแล้วคนให้ส่วนผสมจับกันเป็นก้อนแล้วใช้มือนวดต่อจนเนียน จากนั้นโรยแป้งนวลบาง ๆ ลงในพิมพ์ ปั้นส่วนผสมเป็นก้อนกลมแล้วใส่ลงไปในพิมพ์ กดจนแน่น เคาะออกจากพิมพ์ จัดเสิร์ฟ พร้อมรับประทาน
หมวดหมู่: บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร
กลุ่ม: ขนมไทยชาววัง, ขนมโบราณ, สูตรขนมไทย
ปรับปรุงล่าสุด : 1 ปีที่แล้ว