ขนมช่อม่วง วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ

Rating: 3.8/5 (6 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
ขนมช่อม่วง วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ เป็นขนมที่สมัยนี้หากินยาก ถ้ามีขายก็ราคาแพง ถ้าใครมีเวลาว่างอยากชวนมาทำกินกันเอง มีทั้งสูตรส่วนผสมแป้ง และไส้หมู ขั้นตอนยากหรือไม่ต้องลองมาดูกัน
ขนมช่อม่วง ขนมชาววัง จัดเป็นอาหารว่างของไทย มีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 โดยผู้ทำจะต้องใช้ความประณีต และพิถีพิถัน เป็นความยากในการจับจีบแป้งช่อม่วงเป็นรูปทรงดอกไม้ โดยเอกลักษณ์ของช่อม่วงมีการใช้น้ำอัญชันเป็นสีจากธรรมชาติ และไส้ขนมจะมีการใช้รากผักชี กระเทียม และพริกไทย ซึ่งถือเป็นเครื่องปรุงหลักในอาหารไทยที่เรียกว่า สามเกลอ เป็นการใช้สัดส่วนการใช้โดยทั่วไปจะใช้ในปริมาณเท่า ๆ กันนำมาโขลกรวมกันก่อนใช้ปรุงอาหารหรือขนม การทำช่อม่วงจึงเป็นการใช้ศิลปะบวกฝีมือทางอาหารร่วมกัน
ขนมไทย ขนมโบราณ ขนมหวานไทย นั้นมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทย คือ จะมีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน โดยมีสีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีที่ประณีตบรรจง ขนมไทยดั้งเดิม ขนมโบราณ นั้นจะมีส่วนผสมคือ แป้ง, กะทิ และน้ำตาล เท่านั้น
โดยในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่า งานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร โดยส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาสวยงาม และมีความประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม
ส่วนผสม ไส้ช่อม่วง
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- งาขาวคั่ว 50 กรัม
- ถั่วลิสงคั่ว 50 กรัม
- หมูสามชั้นต้มสุก 1/4 ถ้วย (หั่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ)
- ฟักเชื่อมแห้ง 150 กรัม (หั่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ)
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสม แป้งช่อม่วง
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
- แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งเท้ายายม่อม 1/2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งมันสำปะหลัง เล็กน้อย (สำหรับทาแหนบตอนจับจีบขนม)
- น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)
- ผักกาดหอม สำหรับเสิร์ฟ
- กระเทียมเจียว (โรยหน้า)
- พริกขี้หนูสวน (โรยหน้า)
- ดอกอัญชัน 10 ดอก
อุปกรณ์อื่น ๆ
- กระทะทองเหลือง
- ชุดนึ่ง
- แหนบทองเหลืองสำหรับจับจีบ
วิธีทำไส้ขนมช่อม่วง
1. ขั้นแรกตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป จากนั้นเอาหมูสามชั้นที่หั่นไว้ลงไปผัด โดยใช้ไฟปานกลาง รอจนน้ำมันหมูออกมาและหมูเริ่มสุกสีเหลือง
2. จากนั้นใส่ฟักเชื่อมลงไปผัดใช้ไฟอ่อน ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลทราย ใส่งาขาวและถั่วลิสงลงไป โดยผัดให้เข้ากันดีจนแห้ง แล้วตักใส่ชาม เตรียมไว้
วิธีทำแป้งขนมช่อม่วง
1. ขั้นตอนแรกร่อนแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งเท้ายายม่อมเข้าด้วยกัน 3 - 4 รอบจนเนียนละเอียด
2. จากนั้นใส่น้ำมันพืชลงไป ค่อย ๆ เติมน้ำเปล่าและน้ำดอกมะลิลงไปจนหมด โดยใช้มือขยำคนนวดส่วนผสมแป้งให้ละเอียดเข้ากัน แบ่งส่วนผสมแป้งเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน
3. วิธีต่อไปต้องคั้นน้ำดอกอัญชันแล้วบีบน้ำมะนาวลงไป เทใส่ลงในส่วนผสมแป้ง 1 ถ้วยคลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยใส่ส่วนผสมแป้งลงในกระทะทองเหลือง ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน ใช้ไม้พายกวนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมร่อนจากกระทะ ประมาณ 5-10 นาที ตักใส่ภาชนะ พักไว้จนแป้งเริ่มอุ่น
4. โรยแป้งนวลลงไปเล็กน้อยแล้วลงมือนวดแป้งให้เนียนแล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางหมาด ๆ เพื่อไม่ให้แป้งนั้นแห้ง
วิธีทำขนมไทยดอกช่อม่วง (สูตรขนมไทย)
1. ขั้นตอนแรกเริ่มทำดอกช่อม่วงโดยปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลม ๆ ประมาณ 3/4 นิ้ว แล้วแผ่แป้งให้เป็นแผ่นบาง ๆ โดยกะพอให้หุ้มไส้ได้จนมิด จากนั้นตักไส้ที่ผัดไว้ใส่ลงไปแล้วห่อจากมุมเข้าหากัน จากนั้นใช้มือคลึงให้แป้งหุ้มไส้จนมิด ทำจนหมด เตรียมไว้
2. เริ่มทำจีบโดยเอาทาแป้งข้าวเจ้าที่ปลายแหนบทองเหลืองเล็กน้อย เริ่มจับจีบชั้นที่ 1 โดยจับจากกึ่งกลางของขนม จับจีบวนไปเรื่อย ๆ จนครบรอบ (อย่าจับจีบให้ติดกันมาก)
3. เริ่มชั้นที่ 2 โดยจับจีบให้เอียงจากชั้นแรกเล็กน้อย (ประมาณ 45 องศา) และสับหว่างกันกับชั้นแรก จับจีบจนครบรอบ ต้องทำอย่างใจเย็น
4. เริ่มจับจีบชั้นที่ 3 ประมาณ 2 - 3 จีบ และสับหว่างกันกับกลีบชั้นที่ 2 จากนั้นนำไปเรียงบนใบตองที่ทาน้ำมันแล้วในชุดนึ่ง โดยวางเรียงห่างกันเล็กน้อยเวลาสุกจะได้ไม่ติดกัน
5. ขั้นตอนสุดท้ายเตรียมชุดนึ่งใช้ไฟแรง โดยรอจนน้ำเดือดจัดจึงนำขนมไปนึ่งนานประมาณ 5 นาที จากนั้นพอสุกแล้วนำช้อนจุ่มน้ำมันพืชตักช่อม่วงใส่จาน เสิร์ฟคู่กับผักกาดหอม และพริกขี้หนูสวน
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage














หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
บ้านโบราณ และเมืองโบราณ(
อาร์ตแกลเลอรี่(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา(
ห้องสมุด(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
โบสถ์(
มัสยิด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ตลาดน้ำ(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
สวนสนุก(
สวนน้ำ(
โรงละคร(
โรงภาพยนตร์(
ช้อปปิ้ง
ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(
ห้างสรรพสินค้า(
สปาเพื่อสุขภาพ
สปาเพื่อสุขภาพ(
ร้านอาหาร
มิชลินสตาร์(
ที่พัก
โรงแรม(
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว(
รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(