Rating: 2.7/5 (32 votes)
วัดพระยาทำวรวิหาร
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
วัดพระยา ที่เที่ยวกรุงเทพ ทำเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 47 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย เป็นวัดในกรุงเทพมหานคร ด้านหน้าวัดอยู่ทางทิศตะวันออก มีทางเข้า-ออกติดต่อกับถนนอรุณอมรินทร์ตรงเชิงสะพานข้ามคลองมอญฝั่งเหนือ ตรงกันข้ามกับกรมอู่ทหารเรือ อยู่ทางทิศเหนือของวัดนาคกลางโดยมีคลองมอญคั่นกลาง
ลักษณะพื้นที่ของเขตวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีเนื้อที่ประมาณ 16 ไร่ แบ่งเป็นเขตพุทธาวาสและสังฆาวาสส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่ง (ประมาณครึ่งหนึ่ง) แบ่งให้ทางราชการสร้างโรงเรียนอยู่ทางทิศเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือของพระอุโบสถ และให้ประชาชนอยู่อาศัย
อาณาเขตของวัดมีดังนี้
ทิศตะวันออก ยาวประมาณ 5 เส้น 4 วา โดยจะจดคลองสาธารณประโยชน์ (คลองซอยบ้านขมิ้น)
ทิศตะวันตก ยาวประมาณ 5 เส้น โดยจะจดลำกระโดงสวนอนันต์
ทิศเหนือ ยาวประมาณ 3 เส้น 3 วา โดยจะจดที่ดินของนาวาตรีหลวงสิทธิ
ทิศใต้ ยาวประมาณ 3 เส้น 3 วา โดยจะจดคลองมอญ
วัดพระยาทำ เดิมมีชื่อว่า วัดนาค คู่กับ วัดกลาง ซึ่งตั้งอยู่คนละฝั่งคลองมอญ คือ วัดนาคอยู่ฝั่งเหนือ วัดกลางอยู่ฝั่งใต้ ต่อมาเมื่อวัดนาคเปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระยาทำแล้ว จึงรวมชื่อวัดนาคกับวัดกลางเป็น วัดนาคกลาง ดังที่ปรากฏในปัจจุบัน และ วัดทั้งสองนี้ต่างก็เป็นวัดโบราณ สันนิษฐานกันว่า วัดนาคสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่ยังไม่พบหลักฐานทางเอกสารว่าใครเป็นผู้สร้าง สร้างในรัชกาลใด
มาในสมัยกรุงธนบุรี มีเรื่องเกี่ยวข้องกับวัดนาคปรากฏในพระราชพงศาวดารว่า เมื่อราว พ.ศ. 2313 พระเจ้ากรุงธนบุรีเสด็จไปทรงปราบก๊กพระฝาง (เรือน) ที่ตั้งตัวเป็นใหญ่ในฝ่ายเหนือได้สำเร็จ และรับสั่งให้จับพระสงฆ์ฝ่ายเหนือที่ร่วมกับพระฝางทำความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั้งหลายมาลงพระราชอาญาตามโทษานุโทษ และโปรดให้สังฆการีลงมาอาราธนาพระราชาคณะและพระสงฆ์อันดับจากกรุงธนบุรีขึ้นไปบวชพระสงฆ์ไว้ในหัวเมืองเหนือทุกๆ เมือง และโปรดให้พระราชาคณะอยู่สั่งสอนพระธรรมวินัยในเมืองต่างๆ ดังนี้
1. พระพิมลธรรมไปอยู่เมืองสวางคบุรี
2. พระธรรมโคดมไปอยู่เมืองพิชัย
3. พระธรรมเจดีย์ไปอยู่เมืองพิษณุโลก
4. พระพรหมมุนีไปอยู่เมืองสุโขทัย
5. พระเทพกระวีไปอยู่เมืองสววรคโลก
6. พระโพธิวงศ์ไปอยู่เมืองศรีพนมทุ่งยั้ง
พระธรรมเจดีย์ที่พระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดให้ไปจัดการคณะสงฆ์ที่เมืองพิษณุโลกนั้นเป็น เจ้าอาวาสวัดนาค มาก่อน ซึ่งต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระพิมลธรรม และโปรดให้ไปครองวัดโพธาราม (วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ในปัจจุบัน) 2 ข้อนี้แสดงว่าจะ มีวัดนาคอยู่ก่อนสมัยกรุงธนบุรีแน่นอน
ในต้นรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เคยมีเรื่องให้รวมวัดนาคกับวัดกลางเข้าด้วยกัน คือ ให้มีพัทธสีมาเดียวกัน ดังความปรากฏในพระราชพงศาวดารตอนหนึ่งว่า พระพุฒาจารย์ (อยู่)3 วัดบางหว้าใหญ่ (วัดระฆังโฆสิตาราม) ปรึกษากับพระธรรมธีรราชมหามุนี (ชื่น)4 วัดหงส์รัตนารามแล้วนำความขึ้นถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชว่า “วัดนาคกับวัดกลางมีอุปจารใกล้กันนัก
จะมีพัทธสีมาต่างกันมีควร ควรจะมีพัทธสีมาเดียวกัน ร่วมกระทำอุโบสถสังฆกรรมในพัทธสีมาเดียวกัน” พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระราชดำรัสให้พระราชาคณะประชุมกันพิจารณาวินิจฉัยเรื่องนี้
ในที่สุดที่ประชุมพระราชาคณะอันมีสมเด็จพระสังฆราช(ศรี) ซึ่งเป็นประธาน มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า โดยวัดทั้งสองนี้มีคลองคั่นเป็นเขตอยู่ ควรมีพัทธสีมาต่างกันได้ ซึ่งดังตัวอย่างมีเคยมีมาในครั้งกรุงเก่า โดยปรากฏว่ามตินี้ทำให้พระพุฒาจารย์ (อยู่) ถูกลงพระราชอาญาโดยให้ถอดสมณศักดิ์ ฐานเจรจาอวดรู้กว่าผู้ใหญ่ สมเด็จพระสังฆราช (ศรี) ทรงออกประกาศให้เรียกว่า “มหาอกตัญญู”4
การที่มีคดีคัดค้านไม่ให้วัดนาคกับวัดกลางมีพัทธสีมาแยกกันดังกล่าวข้างต้นนั้น ชวนให้สันนิษฐานว่า ขณะนั้น คงจะมีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งสำคัญในวัดใดวัดหนึ่งหรืออาจจะทั้ง 2 วัดนี้ก็เป็นได้ มิฉะนั้นจะรื้อฟื้นเรื่องเก่าขึ้นมาเพื่อประโยชน์อะไร
อย่างไรก็ดี ใดด้านเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของวัดนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดว่าในต้นรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ.2325) ได้มีการโยกย้ายสับเปลี่ยนกัน กล่าวคือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระครูเทพสิทธิเทพาธิบดี เจ้าอาวาสวัดนาค(สืบต่อจากพระธรรมเจดีย์ในสมัยกรุงธนบุรี) พระครูศรีสุนทรกษรวิจิตร เป็นตำแหน่งคู่สวดในสมเด็จพระสังฆราชไปอยู่วัดกลาง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งพระมหาทองดี เปรียญเอก วัดหงส์รัตนาราม เป็นพระนิกรมมุนีไปครองวันนาคแทน1
ในรัชการที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงสนพระราชหฤทัยอย่างยิ่งในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เช่น ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดหลายสิบวัด และโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนข้าราชการผู้ใหญ่ช่วยรับภาระบูรณปฏิสังขรณ์วัดต่างๆ ด้วย ในการนี้ เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (กุน) สมุหนายก มีจิตศรัทธารับบูรณปฏิสังขรณ์วัดนาค แบบสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดทับลงในที่เดิม ครั้นเสร็จแล้วได้น้อมเกล้า ฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย วัดนาคจึงได้เป็นพระอารามหลวง และมีนามใหม่ว่าวัดพระยาทำ หมายถึง วัดที่เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์สร้างขึ้นใหม่
เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ผู้บูรณปฏิสังขรณ์วัดนาคครั้งใหญ่นี้ เป็นบุตรคนที่ 5 ของพ่อค้าเรือสำเภาสมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อว่า จีนกุ๋ย อยู่ที่ตำบลคลองโรงช้าง เหนือจังหวัดราชบุรีขึ้นไป เมื่อจีนกุน มีครอบครัวแล้วได้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ริมฝั่งแม่กลอง (จังหวัดสมุทรสงคราม) ติดกับวัดใหญ่ ห่างจากวัดเพชรสมุทรวรวิหารไปทางเหนือประมาณ 500 เมตร ในสมัยกรุงธนบุรีจีนกุนได้เข้ารับราชการมีบรรดาศักดิ์เป็นพระราชสิทธิ ได้ยกที่ดินของตนทั้งหมดถวายให้แก่วัดใหญ่ แล้วย้ายมาอยู่ในกรุงธนบุรี ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่หน้าวัดราชบูรณะ (วัดเลียบ)
ต่อมาย้ายไปตั้งบ้านเรือนอยู่ในคลองบางกอกน้อย ในรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้รับพระราชทานเลื่อนขึ้นเป็นพระยาศรีพิพัฒน์ ตำแหน่งจางวางกรมพระคลังสินค้า ต่อมาเมื่อเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ถึงแก่อสัญกรรม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนขึ้นเป็นพระยาพระคลัง ครั้นถึงรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ เป็นต้นสกุลรัตนกุล2 ถึงแกอสัญกรรมในรัชการที่ 2 ท่านมีบุตรธิดา 4 คน คือ (1) จมื่นมหาดเล็ก (ทองอยู่) (2) พระยาพิไชยสงคราม (สัตวา) ต่อมาเลื่อนเป็นเจ้าพระยารัตนามาตยพงศ์ภักดี (3) ท้าววรจันทร์(ยิ้ม) (4) พระนิกรมมุนี(เบญจวรรณ) เจ้าอาวาสวัดพระยาทำ3
ต่อมาในรัชการที่ 3 พระบาทสมเด็จตพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชศรัทธาปฏิสังขรณ์เพิ่มเติมทั้งวัดอีกครั้งหนึ่ง จนมีสภาพถาวรมั่นคงมาถึงรัชการที่ 5 พระอุโบสถ และเสนาสนะต่างๆ เริ่มชำรุดทรุดโทรมลง พระครูสุนทรากษรวิจิตร (แจ้ง) เจ้าอาวาสร่วมกับอุบาสกอุบาสิกาบูรณปฏิสังขรณ์ใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ต่อจากนั้นก็มีการบูรณะสิ่งปลูกสร้างที่ชำรุดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
โทร : 024111349
มือถือ : 0890083127
หมวดหมู่: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
กลุ่ม: วัด
ปรับปรุงล่าสุด : 5 เดือนที่แล้ว