พระราชวังไกลกังวล

พระราชวังไกลกังวล ตั้งอยู่ในตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เที่ยวหัวหินที่มีประวัติยาวนานกว่า 83 ปี เดิมทีถูกสร้างขึ้นเป็นพระราชวังส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 โดยพระองค์ได้โปรดเกล้าฯ ให้ใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จากพระคลังข้างที่ ในการก่อสร้างวังแห่งนี้เพื่อพระราชทานแด่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี การออกแบบและควบคุมการก่อสร้างนั้นอยู่ในความดูแลของหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ กฤดากร ผู้อำนวยการศิลปากรสถานในสมัยนั้น

 

ลักษณะเด่นของวังไกลกังวล วังไกลกังวลประกอบไปด้วยพระตำหนักทั้งหมด 4 หลังที่ตั้งหันหน้าไปทางทะเล แต่ละหลังมีชื่อที่ไพเราะและมีความหมายคล้องจองกัน ได้แก่ "เปี่ยมสุข" "ปลุกเกษม" "เอิบเปรม" และ "เอมปรีย์"

- พระตำหนักเปี่ยมสุข: อาคารสองชั้นสไตล์สแปนิชที่มีหอสูง เป็นที่ประทับสำคัญของรัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ปัจจุบันใช้เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

 

- พระตำหนักน้อย: พระตำหนักขนาดเล็กที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จกรมพระสวัสดิ์ฯ และพระองค์เจ้าหญิงอาภรพรรณี ซึ่งเป็นพระบิดาและพระมารดาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ในอดีตเคยใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีด้วย

 

- พระตำหนักปลุกเกษม: พระตำหนักที่มีสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์สมัยใหม่ ออกแบบให้มีความโปร่งโล่งสบาย ประกอบไปด้วยห้องนอนหลายห้องบริเวณด้านหลัง อีกทั้งยังมีห้องน้ำและห้องส้วมในชั้นล่าง ปัจจุบันเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

 

- พระตำหนักเอิบเปรม และ เอมปรีย์: พระตำหนักชั้นเดียวที่มีลักษณะฝาแฝด สร้างขึ้นในรูปแบบบังกาโลสำหรับการพักผ่อนริมชายทะเลอย่างแท้จริง ลักษณะการก่อสร้างและการจัดวางห้องเครื่องใช้ภายในมีความคล้ายคลึงกัน พระตำหนักนี้เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

 

ประวัติการสร้างและความเป็นมาของวังไกลกังวล วังไกลกังวลเริ่มต้นการก่อสร้างในปี พ.ศ. 2469 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2472 โดยใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 3 ปี ชื่อ “ไกลกังวล” มาจากพระนามที่รัชกาลที่ 7 ทรงพระราชทานให้ โดยความหมายของชื่อนี้สื่อถึง "สวนที่ห่างไกลจากความกังวล" ตัวอาคารมีโครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบสเปนที่ถูกดัดแปลงให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย ขนาดของวังไม่ใหญ่มากนักและมีความเป็นกันเองเหมาะสมกับการเป็นที่พักผ่อนริมหาดมากกว่าพระราชวังขนาดใหญ่ที่ต้องการความเป็นระเบียบเรียบร้อยตามแบบแผนวังโบราณ

 

บริเวณหน้าพระตำหนักแต่ละหลังถูกประดับตกแต่งด้วยโคมไฟ อุปกรณ์การเดินเรือ รูปปั้นหินแกะสลัก นาฬิกาแดดแบบโบราณ และล้อมรอบด้วยสวนแบบตะวันตกที่มีการจัดเรียงต้นไม้ดอกไม้อย่างสวยงามแสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดของสถาปนิก นอกจากนี้ภายในบริเวณวังยังมีพิพิธภัณฑ์หอย ซึ่งรวบรวมเปลือกหอยหลากหลายชนิดให้ประชาชนได้ชม

 

วังไกลกังวลแห่งนี้จึงถือเป็นสถานที่แห่งความสงบสุขและเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันระหว่างราชวงศ์และประชาชน ในปี พ.ศ. 2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ มาประทับชั่วคราวที่พระตำหนักเปี่ยมสุข ณ วังไกลกังวล ในโอกาสนี้ประชาชนได้มารับเสด็จอย่างเนืองแน่น เปล่งเสียงทรงพระเจริญอย่างกึกก้อง แสดงถึงความจงรักภักดีและความปลื้มปีติของประชาชนชาวไทย

 

วิธีการเดินทางไปยังวังไกลกังวล การเดินทางไปวังไกลกังวลนั้นสะดวกทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสาร และรถไฟ

รถยนต์ส่วนตัว: จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพระราม 2 หรือถนนเพชรเกษม ตรงไปอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมื่อถึงอำเภอหัวหิน ให้ขับรถตามเส้นทางถนนเพชรเกษม จนถึงกิโลเมตรที่ 233 วังไกลกังวลจะอยู่ฝั่งขวามือ สามารถจอดรถได้บริเวณใกล้เคียง

 

รถโดยสารประจำทาง: ขึ้นรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งสายใต้ (สายใต้ใหม่) ที่มุ่งหน้าไปหัวหินหรือประจวบคีรีขันธ์ โดยรถโดยสารจะวิ่งผ่านตัวเมืองหัวหิน หลังจากนั้นสามารถนั่งรถสองแถวในตัวเมืองหัวหินไปถึงวังไกลกังวลได้อย่างสะดวก

 

รถไฟ: อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจคือการเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพง กรุงเทพฯ มายังสถานีรถไฟหัวหิน รถไฟจะจอดที่สถานีซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวังไกลกังวล จากนั้นสามารถใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กหรือสองแถวที่สถานีเพื่อเดินทางต่อมายังวังไกลกังวลได้

 

รถตู้: มีบริการรถตู้โดยสารจากกรุงเทพฯ ไปยังหัวหิน โดยสามารถขึ้นรถได้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หรือสถานีขนส่งเอกมัย ซึ่งรถตู้จะจอดบริเวณใกล้เคียงกับวังไกลกังวล ทำให้สะดวกต่อการเดินทางมากยิ่งขึ้น

 

 

พระราชวังไกลกังวล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับการมาเยือนในวันหยุด ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือขนส่งสาธารณะก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย ทำให้วังแห่งนี้เป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศของชายทะเลพร้อมชมสถาปัตยกรรมที่สวยงาม