
ต้นแม่น้ำเพชรบุรี

Rating: 4.5/5 (4 votes)




สถานที่ท่องเที่ยวเพชรบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 24 ชั่วโมง
ต้นแม่น้ำเพชรบุรี อยู่ในป่าลึกเขตตำบลห้วยแม่เพรียง เป็นน้ำที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใช้ เมื่อประพาสที่เขาวัง จังหวัดเพชรบุรี ต้นแม่น้ำเพชรบุรี มีกำเนิดในผืนป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่มีเนื้อที่เกือบสองล้านไร่ จากเทือกเขาตะนาวศรีด้านทิศใต้
โดยต้นน้ำเริ่มไหลจากทิศใต้แล้วไหลมาทิศเหนือ ถึงผาน้ำหยดแล้วไหลไปทิศตะวันออกลงเขื่อนแก่งกระจาน ยังมีลำห้วยอีกหลายที่ไหลลงมารวมกันเป็นแม่น้ำ เช่น ห้วยแม่ประโดน ห้วยทอธิบ ห้วยแม่สะเลียง แม่น้ำบางกลอย และห้วยเยกเย เป็นต้น เมื่อเดินทางเข้าไปตามแม่น้ำเพชรบุรี จะพบกับสภาพที่สมบูรณ์ มีต้นไม้ขนาดใหญ่หลายคนโอบมีอยู่ตลอดริมฝั่งแม่น้ำ ฝูงค่างจำนวนมากมายหากินบนต้นไม้ ชะนีจะร้องก้องป่าตลอดทั้งวันตลอดทาง เก้ง หมูป่า กวาง
มีโอกาสพบเห็นได้ทุกเวลา หรือสัตว์อย่างอื่น เช่น ช้าง หมี หรือสมเสร็จ ร่อยรอยของเจ้าแมวป่าขนาดใหญ่เดินหากินตลอดริมแม่น้ำ ถ้าโชคดีอาจจะมีโอกาสได้พบกับมัน โดยจะพบรอยเจ้าแมวป่ามากช่วงปากห้วยตะเกลโพและห้วยตะเกลพาดู ส่วนในน้ำก็คราคร่ำไปด้วยฝูงปลาพลวงจำนวนมหาศาลตลอดทั้งแม่น้ำ ตัวขนาดครึ่ง กิโลกรัม จนถึงขนาด 5-6 กิโลกรัม อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่แหวกว่ายในน้ำใส รวมทั้งปลาอย่างอื่น ฝูงนากกินปลาส่งเสียงร้องไล่ล่าหาปลากินกันอย่างอย่างมีความสุข
ต้นกุ่มน้ำจะออกดอกขาวบานสะพรั่งตลอดริมแม่น้ำทั้งปี เวลาเช้ามืดจะเซ็งแซ่ไปด้วยเสียงชะนี้และเสียงค่างที่ออกหากิน เวลาเช้าตรู่เป็นเสียงของนกนานชนิด โดยส่วนในแม่น้ำฝูงปลาพลวงจะมาแหวกว่าชูสันกระโดงสลอนไปมา หรืออาจจะมีโอกาสได้พบจระเข้ก็ได้ แต่ตัวมังกรทองมีมาก โดยนอนอาบแดดตามขอนไม้หรือตามต้นไม้ริมแม่น้ำ แต่ละตัวโตขนาดโคนขาทำให้เข้าใจว่าเป็นจระเข้น้ำจืดไปได้เหมือนกัน
สถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักกันดี คงมีแต่น้ำตกทอธิบเท่านั้น ซึ่งต้องเดินจากแม่น้ำเข้าอีกประมาณ 2๐ นาที โดยตลอดแม่น้ำจะเป็นพื้นที่ราบเป็นส่วนมาก และมีหาดทรายอยู่ตลอดแต่ก็ไม่แน่เพราะแม่น้ำมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี กลางคืออากาศจะเย็น การพักค้างแรมในแต่ละคืน ต้องนอนติดแม่น้ำที่ไหลดังก้องป่า จนไม่ได้เสียงของสัตว์ป่าที่เข้ามาในยามค่ำคืน แม้แต่ช้าป่าเข้าจนก็ยังไม่ได้ยิน โดยจะมีเส้นทางเดินเฉพาะของทางด่าน และที่พักจึงมักจะติดกับทางด่านโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะถัดเลยจากแม่น้ำไปเป็นเชิงเขา เว้นแต่จะผูกเปลนอนตามต้นไม้ จึงต้องระวังอันตรายจากสัตว์ป่าในยามค่ำคืน
โดยในการเดินแต่ละวันต้องเดินข้ามแม่น้ำหลายสิบครั้ง บางแห่งข้ามได้ยากเพราะก้อนหินในน้ำลื่นมาก น้ำลึกแค่หัวเข่าจนถึงโคนขา แต่ใช้เดินได้เฉาพะหน้าแล้งหรือช่วงที่น้ำลดเท่านั้น ซึ่งถ้าน้ำสูงมากกว่านี้จะเดินข้ามไม่ได้ หรือข้ามลำบากจากกระน้ำที่ไหลแรง การเดินเข้าไปในแม่น้ำเพชรในอดีตเมื่อหลายสิบปี แต่ถ้าพูดเฉพาะการเดินทางเข้าตามลำแม่น้ำ ก็ต้องนั่งเรือจากเขื่อนแก่งกระจานจนถึงสุดน้ำเอ่อแล้วนำเรือเล็กขึ้นไปอีก จะไปได้ถึงไหนก็อยู่ที่ความยามของแต่ละบุคคลเป้าหมายที่จะไป พวกที่หาปลาก็จะเอาเรือไปถึงผาน้อยซึ่งอยู่เลยวังคาขึ้นไป
การหาปลาจะใช้วิธีระเบิดหรือใช้ไฟช๊อต โดยมาพักค้างแรมเป็นอาทิตย์หรือเกือบเดือนในแต่ละครั้ง ทำเป็นปลารมควัน พอได้เต็มลำเรือก็ขนลำเลียงลงมาขาย ส่วนพวกที่ต้องการอย่างอื่นก็เข็นเรือผ่านแก่งขึ้นถึงใจกลางป่าลึก เพราะมีสัตว์ป่าชุกชุมมาก โดยเฉพาะ เก้ง กวาง และเมื่อยี่สิบปีก่อนต้องนั่งเรือมากจากเขื่อนแก่งกระจาน มาลงที่ห้วยแม่ประโดนหรือที่บ้านประตูผี แล้วหาเรือเล็กมาส่งที่น้ำเอ่อ ซึ่งจากนั้นเดินไปตามทางสัมปทานป่าไม้ที่รกร้างจนถึงวังคา ข้ามแม่น้ำไปอีกฟากหนึ่งไปถึงปากแม่น้ำบางกลอย ผ่านผาน้ำหยด ซึ่งหน้าผาสูงมีน้ำไหลหยดตลอดปี บนหน้าสูงมีรังผึ้งหลวงอาศัยอยู่นับสิบรัง เลยจากผาน้ำหยดไปจะมีทางด่านตลอดจนถึงห้วยทอธิบ
ปัจจุบันนั้นไม่ค่อยมีช้างป่ามาเดินจึงทำให้รกและเปลี่ยนเส้นทาง แต่ก่อนทางด่านจะโล่งเดินสบาย จึงสามารถใช้เป็นทางปั่นจักรยานได้ เลยจากห้วยทอธิบไปประมาณหนึ่งชั่วโมง จะเป็นหน้าผาช่องแคบน้ำลึก จึงต้องปีนด้านซ้ายมือ(ทิศตะวันออก) แต่ถ้าพลาดก็ตกน้ำที่ลึกสีเขียวน่ากลัว เพราะทางด่านช่วงจะตัดข้ามสันสูงด้านทิศตะวันตก แต่ถ้าเลยจากนี้ไปจะมีทางด่านสลับเดินตามแม่น้ำ แต่ช้างโขลงจะไม่มาหากินคงมีแต่ช้างที่กินตัวเดียว และจะเป็นป่ารกและเดินลำบาก โดยก่อนสุดสายน้ำจะพบไร่เก่าของชาวเขาที่เคยทำไร่ ถ้าเริ่มเดินจากบ้านโป่งลึกจนถึงสุดสายน้ำก็คงใช้เวลาประมาณ 6 วันอย่างไม่รีบร้อน
โดยในปัจจุบันการเดินทางเข้าต้นแม่น้ำเพชรบุรีสะดวกกว่าเดิมมาก เพราะมีถนนที่ตัดไปน้ำตกทอธิบ เดินจาก ก.ม. 36 ไปอีกสองชั่วโมงกว่าก็ถึงน้ำตกทอธิบ ซึ่งอยู่ใจกลางป่าต้นน้ำแม่น้ำเพชรบุรี ที่อยู่เราว่าจะเดินขึ้นไปยังต้นแม่น้ำ หรือว่าจะเดินลงมาตามแม่น้ำ ถ้าเดินทวนกระแสน้ำขึ้นไปจนสุดแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน ถ้าเดินมาตามแม่น้ำอีก 2-3 วันก็จะถึงบ้านโป่งลึก หรือล่องแพมาก็ได้ จนถึงน้ำเขื่อนแก่งกระจานเอ่อถึง โดยใช้เวลาประมาณ 2 วัน ล่องได้เฉพาะช่วงตั้งซับชุมเห็ดลงมา และล่องได้เฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว เลยจากนั้นก็แล้วแต่ปริมาณของน้ำที่ไหลตลอดทั้งปี แต่หน้าแล้งน้ำค่อนข้างน้อยมาก
แม่น้ำเพชรบุรี นั้นเป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดเพชรบุรี มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาตะนาวศรีในเขตอำเภอแก่งกระจาน โดยจะไหลไปทางทิศเหนือ เมื่อถึงจุดที่แม่น้ำบางกลอยไหลมาบรรจบจึงวกไปทางทิศตะวันออก และจะไหลลงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เข้าเขตอำเภอท่ายาง โดยเมื่อถึงจุดที่ห้วยหินเพลิงไหลมาบรรจบจึงเปลี่ยนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะไหลผ่านเขตอำเภอบ้านลาด อำเภอเมืองเพชรบุรี และอำเภอบ้านแหลม ก่อนไหลลงสู่อ่าวไทย มีความยาว 233 กิโลเมตร แม่น้ำเพชรบุรีส่งตะกอนมาตกสะสมเกิดเป็นที่งอกและดินดอนชายฝั่ง จะมีปริมาณตะกอน 46 ตันต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งพื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ของจังหวัดเพชรบุรีตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันจะอยู่ตามสองฟากฝั่งของแม่น้ำนี้




แสดงความเห็น
คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage