
วัดพระธาตุดอยคำ




สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: วันจันทร์ - วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00
วัดพระธาตุดอยคำ วัดในเชียงใหม่ ที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่เที่ยวภาคเหนือ ตั้งอยู่ที่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง เดินทางไปได้ตามเส้นทางเลียบคลองชลประทาน จะมีป้ายบอกข้ามคลองไปทางตำบลแม่เหียะ จะพบทางขึ้นเขาไปยังพระธาตุดอยคำ ตามประวัติ เมื่อ พ.ศ. 2509 วัดอยคำเป็นวัดร้าง ต่อมากรุแตกชาวบ้านพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระรอดหลวง พระหินทรายปิดทององค์ใหญ่ พระสามหมอ (เนื้อดิน) ซึ่งนำมาประดิษฐานไว้ ณ วัดพระธาตุดอยคำ พระธาตุดอยคำนอกจากจะเป็นที่สักการะบูชาของคนท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของการบินไทยที่ใช้กำหนดพื้นที่ทางสายตา ก่อนที่จะลงจอดที่สนามบิน
วัดดอยคำตำนานของพระธาตุดอยคำ เริ่มขึ้นเมื่อครั้งที่พระพุทธองค์มีพระชนมายุได้ 50 ปีเศษ พระองค์ได้นำพระภิกษุอรหันต์พร้อมด้วยพระอินทร์มุ่งหน้าขึ้นสู่ทิศเหนือผ่านเมืองบุรพนคร และได้พักอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งปัจจุบันนี้เป็นสถานที่ตั้งของวัดเจดีย์เหลี่ยม จากนั้นเสด็จต่อไปถึงดอยคำซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ณ ที่นั้น ทรงพบว่ามียักษ์สามตน พ่อ แม่ ลูก อาศัยอยู่และยังชีพด้วยเนื้อมนุษย์หรือเนื้อสัตว์ตลอดมา
ทันทีที่พวกยักษ์เห็นพระพุทธองค์พร้อมด้วยเหล่าสาวก ก็หมายจะจับกินเป็นอาหารดังเช่นเคย แต่พระพุทธองค์ทรงแผ่เมตตาห้ามจิตกิเลสของพวกเขาให้อ่อนลง จนต้องเข้ามากราบพระองค์ด้วยความยำเกรง เนื่องจากยักษ์ผู้เป็นผัวนามว่า จิคำ และผู้เป็นเมียชื่อว่า ตาเขียว ไม่สามารถจะรักษาศีลห้าได้ตลอด
จึงได้ขออนุญาตพระพุทธเจ้ากินเนื้อมนุษย์ปีละ 2 หน โดยเมื่อพระองค์ไม่อนุญาตจึงขอเปลี่ยนเป็นเนื้อสัตว์ ซึ่งพระองค์ก็เลี่ยงให้ไปขอเจ้าผู้ครองนครเอง ซึ่งท่านเจ้าเมืองก็ยินยอม ดังนั้น พิธีฆ่าควายเผือกเขาเพียงหูให้ปู่ แสะขึ้นที่บริเวณวัดฝายหิน เชิงดอยสุเทพ และได้มีการจัดพิธีฆ่าควายดำเขาเพียงหูให้ย่าแสะที่เชิงดอยคำ จนถึงปัจจุบันนี้ โดยภายหลังเมื่อลูกยักษ์ขอบวช พระพุทธเจ้าจึงแสดงธรรมให้ฟังพร้อมกับประทานพระเกศธาตุ ซึ่งยักษ์ทั้งสองจึงนำพระธาตุบรรจุไว้อย่างดีในผอบแก้วมรกต
จากนั้นได้เกิดศุภนิมิตขึ้น คือมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน แล้วเม็ดฝนได้กลายเป็นทองคำไหลเข้าสู่ถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาเรียกชื่อกันว่า ถ้ำคำ โดยพระพุทธองค์จึงได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ ณ แท่นศิลาซึ่งอยู่ระหว่างหมู่ไม้พยอมทางทิศตะวันออกของดอยคำ โดยต่อมาแท่งศิลานั้นได้จมหายลงไปในแผ่นดิน
ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าในถ้ำดอยคำมีเพชรนิลจินดาอยู่มากมาย และแต่เดิมชาวเมืองสามารถยืมไปใช้ในการกุศลได้ แต่ภายหลังเมื่อมีผู้ทุศีลยืมไปแล้วไม่คืน เทพยดาจึงบันดาลให้มีหินก้อนใหญ่ปิดปากถ้ำไว้เสีย (ปัจจุบันปากถ้ำถูกปิดตาย เพราะมีหินถล่มลงมาปิดทางเข้าออกจนมิด)
ตามตำนานนั้นยังได้กล่าวถึงการริเริ่มก่อสร้างเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุดังต่อไปนี้ว่า “ภายหลังจากที่พระพุทธเจ้าอนุญาตให้ลูกยักษ์บวชเป็นพระฤาษีนามว่า วาสุเทพฤาษีแล้ว ซึ่งฤาษีตนนี้ได้ไปตั้งอาศรมอยู่หลังดอยสุเทพ โดยตัวปู่แสะอาศัยอยู่บริเวณวัดฝายหิน และตัวย่าแสะได้อยู่รักษาถ้ำดอยคำไว้ แต่หลังจากที่ปู่แสะและย่าแสะได้ตายไป วาสุเทพฤาษีจึงเป็นผู้ดูแลถ้ำดอยคำพร้อมกับพระบรมธาตุสืบต่อมา
จนกระทั่งปี พ.ศ. 1176 เกิดเหตุการณ์วาสุเทพฤษีองค์ที่ 8 ได้ทารกเพศหญิงซึ่งมีลักษณะของผู้มีบุญญาธิการมาเลี้ยงไว้ 1 คน จึงได้ตั้งชื่อว่า วีเมื่อนางเติบโตขึ้นเป็นพระแม่เจ้าผู้มีสิริโฉมงดงามกว่าหญิงใด โดยนางยังได้ครองนครหริภุญชัย (เมืองลำพูน) อีกด้วย เมื่อวาสุเทพฤาษีสิ้นชีพไปแล้ว นางจึงรับภาระการรักษาดูแลพระบรมธาตุและถ้ำดอยคำสืบต่อมา
จากนั้นราวปี พ.ศ. 1230 (จ.ศ. 49) พระนางจามเทวี นั้นได้รับสั่งให้พระโอรสทั้งสองของพระองค์ ทรงพระนามว่าเจ้ามหันตยศและเจ้าอนันตยศ ได้สร้างเจดีย์องค์เล็กขึ้นที่ดอยคำ แล้วอัญเชิญผอบแก้วซึ่งบรรจุพระเกศธาตุของพระพุทธองค์ประดิษฐานไว้ในสถูปเจดีย์องค์นั้น โดยหลังจากนั้นพระนางทรงอธิษฐานว่าหากยังไม่ถึงเวลาที่พระธาตุองค์นี้จะรุ่งเรือง
โดยผู้มีบุญญาธิการดังที่พระพุทธองค์ทรงทำนายไว้ (คือ 2500 ปี หลังจากที่พระองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว) ขออย่าได้มีผู้ใดมาสร้างวัดวาอาราม หรือเข้ามาอยู่อาศัยในสถานที่แห่งนี้ได้ เพราะทรัพย์สินสิ่งของโบราณต่างๆ จะสูญสลายไปก่อนเวลาอันสมควร อาจเป็นเพราะแรงอธิษฐานนั้นก็เป็นได้ที่ทำให้ไม่ว่าเมื่อใดมีผู้สร้างอารามขึ้น ณ สถานที่แห่งนี้
ภายหลังจะต้องกลายเป็นอารามร้างและถูกรื้อถอนอยู่เช่นนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งในปี 2509 องค์เจดีย์ได้ล้มลง จึงได้ขุดรื้อองค์พระธาตุ พบว่ามีพระเครื่องและของโบราณจำนวนมาก นอกจากนั้นที่ใต้เจดีย์พบว่ามีปล่องลึกลงไปที่มองไม่เห็นก้นหลุม แต่ปรากฎว่ามีอาการเคลื่อนไหวอยู่ที่ก้นหลุมและมีมูลดินถูกดันขึ้นมาเหมือนกับว่ามีสัตว์ขนาดใหญ่ดันอยู่ข้างใต้ ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากการลงอาถรรพ์บริเวณที่มีสมบัติเพื่อป้องกันการรบกวน จึงทำการปิดปากหลุมหนาประมาณ 1 ศอก พร้อมกับสร้างเจดีย์ใหม่ครอบไว้
พระครูสุนทร เจติยารักษ์ ที่เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นองค์ปัจจุบัน เจริญพรว่า แต่เนื่องด้วย วัดพระธาตุดอยคำ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของล้านนาไทย จึงมีพระเจดีย์เป็นที่บรรจุพระเกษาธาตุของพระพุทธเจ้า มีอายุกว่าพันปี โดยมีพุทธบริษัทนักศีลนักบุญเดินทางขึ้นไปนมัสการมิได้ขาด
ทางวัดพระธาตุดอยคำและคณะศรัทธากรรมการจึงได้จัดงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุขึ้นทุกปีมิได้ขาด โดยถือเอาวันแรม 8 ค่ำ หลังวันวิสาขบูชาซึ่งเป็นวันอัฏฐมีบูชาเป็นวันสรงน้ำพระธาตุ และในงานนี้ทางวัดได้จัดพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์พระนางเจ้าจามเทวีซึ่งได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2538 และพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารร่วมด้วย




แสดงความเห็น
คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage