วัดเชียงมั่น

Rating: 4/5 (6 votes)

วันเปิดทำการ: ทุกวัน

เวลาเปิดทำการ: 08.00–17.00 น.

 

วัดเชียงมั่น คือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่อย่างแท้จริง และยังคงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางจิตใจของชุมชนมาจนถึงปัจจุบัน วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนราชภาคินัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ภายในเขตคูเมืองชั้นใน และได้รับการยอมรับว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่ สร้างขึ้นพร้อมกับการก่อตั้งเมืองเมื่อปี พ.ศ. 1839 ในสมัยพญามังรายมหาราช จึงนับได้ว่าเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกของอาณาจักรล้านนา และเป็นรากฐานสำคัญของเมืองเชียงใหม่ในทุกมิติ

 

เมื่อพญามังรายทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ พระองค์ได้ใช้บริเวณเชียงมั่นเป็นที่ประทับชั่วคราวเพื่อควบคุมการก่อสร้างเมือง เมื่อการสร้างเมืองแล้วเสร็จ จึงโปรดให้ก่อเจดีย์ ณ บริเวณที่ประทับ และสถาปนาขึ้นเป็นวัด โดยพระราชทานนามว่า “วัดเชียงมั่น” หลักฐานดังกล่าวปรากฏชัดในศิลาจารึกวัดเชียงมั่น (ศิลาจารึกหลักที่ 76) ซึ่งระบุปี พ.ศ. 1839 ไว้อย่างชัดเจน ทำให้วัดแห่งนี้มีสถานะเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและการเมืองในยุคเริ่มต้นของเมืองเชียงใหม่

 

วัดเชียงมั่นเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของเมืองเชียงใหม่ คือ พระเสตังคมณี หรือที่ชาวล้านนาเรียกกันทั่วไปว่า “พระแก้วขาว” พระพุทธรูปองค์นี้ได้รับความเคารพศรัทธาอย่างสูง และถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มาแต่โบราณ เชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยคุ้มครองบ้านเมือง การได้มาสักการะพระเสตังคมณีจึงเปรียบเสมือนการมาสัมผัสหัวใจของเมืองเชียงใหม่โดยตรง

 

สถาปัตยกรรมภายในวัดเชียงมั่นสะท้อนพัฒนาการของศิลปกรรมล้านนาในหลายยุคสมัย โดยโบราณสถานที่โดดเด่นที่สุดคือเจดีย์ทรงระฆังบนฐานสี่เหลี่ยมที่มีช้างล้อมฐาน เจดีย์องค์นี้ตั้งอยู่บนฐานเขียงสี่เหลี่ยมซ้อนลดหลั่นกันสองชั้น โดยรอบฐานประดับด้วยรูปช้างครึ่งตัวจำนวน 15 เชือก ช้างแต่ละเชือกยื่นออกมาราวกับช่วยค้ำจุนองค์เจดีย์ สื่อความหมายถึงพลัง ความมั่นคง และการค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่สืบไป

 

องค์ประกอบของเจดีย์มีรายละเอียดประณีต ตั้งแต่ฐานเขียงที่ประดับบัวคว่ำ ลูกแก้วอกไก่ และบัวหงาย รองรับองค์เรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมเพิ่มมุมไม้สิบสอง แต่ละด้านประดับซุ้มจรนำอย่างสมดุล ส่วนบนขององค์เจดีย์ไล่ระดับขึ้นไปเป็นบัวถลา มาลัยเถา องค์ระฆัง บัลลังก์ และยอดฉัตรโลหะฉลุลาย ประดับด้วยก้านตาล ปล้องไฉน และเม็ดน้ำค้าง แสดงถึงฝีมือช่างล้านนาที่ผสานความงามทางศิลป์และความหมายทางศาสนาไว้ด้วยกันอย่างลึกซึ้ง

 

ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ วิหารทรงล้านนาดั้งเดิม พระอุโบสถซึ่งใช้ประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา และหอไตรซึ่งเป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่างก่ออิฐฉาบปูน ชั้นบนเป็นไม้ ใช้สำหรับเก็บรักษาคัมภีร์ใบลาน อันเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ทางพระพุทธศาสนาและภูมิปัญญาล้านนาในอดีต

 

ในเชิงประวัติศาสตร์ วัดเชียงมั่นได้รับการบูรณะและก่อสร้างเพิ่มเติมหลายครั้ง ในสมัยพญาติโลกราช พ.ศ. 2014 ได้โปรดให้สร้างเจดีย์ขึ้นใหม่ด้วยศิลาแลง ต่อมาในช่วงที่พม่าเข้าปกครองเชียงใหม่ เจ้าฟ้ามังทราได้โปรดให้สร้างวิหาร อุโบสถ หอไตร ธรรมาสนะ และกำแพงประตูโขง ก่อนที่ในสมัยพระเจ้ากาวิละ (พ.ศ. 2325–2367) จะมีการบูรณะวัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่หลังยุคการกอบกู้เอกราช

 

ปัจจุบัน วัดเชียงมั่นยังคงเป็นวัดที่มีชีวิต เป็นศูนย์กลางของชุมชน และเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมและประเพณีไทยอย่างสม่ำเสมอ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสทั้งคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ความงดงามของศิลปกรรม และบรรยากาศศรัทธาที่สืบทอดต่อเนื่องมากกว่า 700 ปี วัดเชียงมั่นจึงไม่ใช่เพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และจิตวิญญาณของเมืองเชียงใหม่เข้าไว้ด้วยกันอย่างแนบแน่น

 

การเดินทาง วัดเชียงมั่นตั้งอยู่บนถนนราชภาคินัย ภายในเขตเมืองเก่าเชียงใหม่ สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถจักรยานยนต์ รถสาธารณะ หรือการเดินเท้าจากสถานที่สำคัญใกล้เคียง เช่น ประตูท่าแพ วัดเจดีย์หลวง และอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ โดยควรปฏิบัติตามกติกาของวัดและชุมชนโดยรอบอย่างเคร่งครัด

 

 

ตอบ: เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่ และเป็นพระอารามหลวงแห่งแรก สร้างขึ้นพร้อมการก่อตั้งเมืองในสมัยพญามังราย

 

ตอบ: เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่ ที่ชาวล้านนาให้ความเคารพศรัทธามาอย่างยาวนาน

 

ตอบ: ช้างเป็นสัญลักษณ์ของพลังและความมั่นคง หมายถึงการค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่

 

ตอบ: เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเรียนรู้รากเหง้าของเมืองเชียงใหม่

 

ตอบ: ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าเชียงใหม่ สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งรถส่วนตัว รถสาธารณะ และการเดินเท้า